คำอธิบายภาพ
บทความนี้เขียนโดย DAOCtor, Shaun@DAOrayaki.org ขอบคุณคำติชมจากทีม DoraHacks
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เราอยู่ในยุคเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างรวดเร็ว คำพ้องความหมาย เช่น โอเพ่นซอร์ส geeks การเข้ารหัส DAO ควอนตัม และการอพยพระหว่างดวงดาวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่อยู่อาศัยของเรา และเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรับรู้และพฤติกรรมของเรา ทุกๆ จุด จะมีกลุ่มผู้ประกาศข่าวประเสริฐและผู้นำในยุคนั้นเกิดขึ้น ผู้ก่อการในยุคนั้นไม่เพียงแต่มีปัจจัยด้านเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังมีความพากเพียรและความยากลำบากในการนั่งบนบัลลังก์ก่อนที่คลื่นจะมาถึงอีกด้วย
DAOrayaki เป็นองค์กรสื่อและการวิจัยที่กระจายอำนาจซึ่งมุ่งเน้นไปที่หัวข้อที่ทันสมัย จากการสังเกตและการวิจัยอย่างต่อเนื่อง เราพบว่าทุกเรื่องราวของผู้เผยแพร่ศาสนาที่อยู่เบื้องหลังความก้าวหน้าของยุคเทคโนโลยีมีกลุ่มที่น่านับถือและกลุ่มที่ห่างไกล เข้าถึงอิทธิพล หัวข้อของ ในการแยกแยะอิทธิพลและบทบาทของคำศัพท์ฮอตสปอตเทคโนโลยีและผู้ประกาศข่าวประเสริฐในช่วงสิบปีที่ผ่านมา แฮ็กเกอร์ดำเนินการพัฒนาและวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีทุกอย่าง ทุกวันนี้ วัฒนธรรมแฮ็กเกอร์ถือกำเนิดมาประมาณ 60 ปีแล้ว แต่เพิ่งกลายเป็นวัฒนธรรมป๊อปได้ไม่ถึงสิบปี ในหมู่พวกเขา DoraHacks ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการนำความนิยมและการพัฒนาของวัฒนธรรมแฮ็กเกอร์ เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การวิเคราะห์และการสำรวจหลายมุมของเรา ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงสร้างบทความนี้ขึ้นมา ซึ่งอธิบายรายละเอียดจากห้าส่วนต่อไปนี้ เพื่อให้แนวทางสำหรับผู้สนับสนุนและผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมมีแนวทางสำหรับการคิดและการปลอบโยนทางจิตวิญญาณบนท้องถนน
ห้าส่วนเหล่านี้คือ:ชื่อระดับแรก
1. การเคลื่อนไหวโอเพ่นซอร์สและวัฒนธรรมที่เกินบรรยาย
แนวคิดของโอเพ่นซอร์สได้รับการติดตาม รับรู้ และยึดมั่นโดยกลุ่มผู้สนับสนุนอินเทอร์เน็ตที่ไม่หยุดนิ่งมานานหลายปี คนเหล่านี้ภูมิใจที่เรียกตัวเองว่า แฮ็กเกอร์ geeks ที่กล่าวถึงในที่นี้ไม่ใช่ชื่อของอาชญากรคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน แต่เป็นชื่อของนักประดิษฐ์อัจฉริยะ นักแก้ปัญหา และนักเทคโนโลยี ผู้ก่อวินาศกรรมที่ใช้เครือข่ายเพื่อเจาะระบบอื่นควรเรียกว่า แคร็กเกอร์
คำอธิบายภาพ
Program Data Processor No.1
ในปี 1982 Richard Stallman นักฟิสิกส์มนุษย์ผู้มีชื่อเสียงประจำห้องปฏิบัติการปัญญาประดิษฐ์ของ MIT (ตามที่คนในชุมชนโอเพ่นซอร์สชอบเรียกเขาว่า"rms") เพื่อเริ่มสร้างภาษา C ใหม่ทั้งหมด นั่นคือการโคลนและแจกจ่าย UNIX ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ GUN ที่มีชื่อเสียง ปืนกลายเป็นจุดสนใจของกิจกรรมเกินบรรยายอย่างรวดเร็ว อันที่จริง เป็นเวลากว่าทศวรรษแล้วที่มูลนิธิซอฟต์แวร์เสรีซึ่งก่อตั้งโดย Stallman ได้กำหนดอุดมการณ์สาธารณะของวัฒนธรรมเกินบรรยายเป็นส่วนใหญ่
คำอธิบายภาพ
386.UNIX
ผลกระทบที่เกิดจาก Linux นั้นไม่ได้เป็นเพียงด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญทางสังคมวิทยาอีกด้วย ก่อนที่ลีนุกซ์จะได้รับการพัฒนา หลายคนเชื่อว่าหากซอฟต์แวร์มีความซับซ้อนขนาดนี้สำหรับระบบปฏิบัติการ มันต้องเป็นทีมที่ประสานงานกันอย่างดี มีขนาดเล็ก มีปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด มีการจัดการจากส่วนกลางและเข้มงวดในกระบวนการ เช่นเดียวกับการสร้างมหาวิหาร มันถูกสร้างขึ้นด้วยมือผู้เชี่ยวชาญ นี่เป็นรูปแบบการพัฒนาทั่วไปตั้งแต่สมัยโบราณ
อย่างไรก็ตาม ลีนุกซ์ได้พัฒนาเส้นทางที่แตกต่างจากจุดเริ่มต้นอย่างสิ้นเชิง และการพัฒนาก็เหมือนกับการทำงานแบบสุ่มของอาสาสมัครจำนวนมากที่ทำงานผ่านอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ในด้านคุณภาพนั้นไม่มีมาตรฐานที่เข้มงวดและไม่มีองค์กรที่แข็งแกร่งในการจัดการ เพียงดำเนินการตามกลยุทธ์ง่ายๆ ที่คาดไม่ถึง: เผยแพร่ทุกสัปดาห์และรับคำติชมจากผู้ใช้หลายร้อยคนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ลินุกซ์สร้างกลไกการเลือกคล้ายกับการคัดเลือกโดยธรรมชาติของดาร์วิน วัตถุที่เลือกคือการดัดแปลงซอฟต์แวร์ที่ทำโดยนักพัฒนา
ทุกคนประหลาดใจ โมเดลการพัฒนานี้ทำงานได้ดีมาก ในตอนท้ายของปี 1993 Linux เปรียบได้กับ UNIX เชิงพาณิชย์ในแง่ของความเสถียรและความน่าเชื่อถือและรองรับซอฟต์แวร์มากกว่า UNIX เชิงพาณิชย์ แอปพลิเคชั่นเชิงพาณิชย์บางตัวเริ่มพิจารณาที่จะย้ายไปยัง Linux
ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 กิจกรรมหลักของชุมชน geek คือการพัฒนา Linux และการส่งเสริมอินเทอร์เน็ต หลังจากที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นกระแสหลัก วัฒนธรรมเกินบรรยายก็เริ่มได้รับความเคารพและมีอิทธิพลทางการเมืองบ้าง ในปี พ.ศ. 2537 และ พ.ศ. 2538 การกระทำดังกล่าวล้มเหลวเนื่องจากการประท้วงจำนวนมากโดยผู้ที่ต่อต้านข้อเสนอของ Clipper ซึ่งพยายามนำอัลกอริธึมการเข้ารหัสมาอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2539 แนวร่วมกลุ่มผู้คลั่งไคล้ได้นำไปสู่การยกเลิกพระราชบัญญัติการจัดสรรการสื่อสาร การยกเลิกกฎหมายดังกล่าวทำให้รัฐบาลไม่สามารถตรวจสอบอินเทอร์เน็ตได้ ด้วยชัยชนะของพระราชบัญญัติคุณสมบัติการสื่อสาร วัฒนธรรมเกินบรรยายได้ย้ายจากประวัติศาสตร์มาสู่ปัจจุบัน
ในชุมชนลีนุกซ์ มันไม่เหมือนอาสนวิหารที่เงียบสงบและเคร่งครัดน้อยกว่าตลาดขนาดใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขา เปิดกว้างสู่เส้นทางที่เกือบจะวุ่นวาย เต็มไปด้วยแผนการและแนวทางที่แตกต่างกัน แต่การสร้างระบบปฏิบัติการที่เสถียร เหตุใดระบบ Linux จึงไม่พังทลายลงในความโกลาหล แต่กลับแข็งแกร่งขึ้นด้วยความเร็วที่ผู้สร้างอาสนวิหารไม่สามารถจินตนาการได้
ทำไมรูปแบบนี้ถึงได้ผล? กลับไปที่วัฒนธรรมเกินบรรยายและชุมชนโอเพ่นซอร์ส
Geeks คือกลุ่มนักประดิษฐ์อัจฉริยะ นักแก้ปัญหา และนักเทคโนโลยี วัฒนธรรมกี๊กเป็นแรงผลักดันที่แท้จริงในการสร้างการตลาดด้วยตนเองที่มีประสิทธิภาพ และทำให้ชุมชนโอเพ่นซอร์สและนักพัฒนาโอเพ่นซอร์สประสบความสำเร็จ เราสามารถใช้แบบจำลองอาสนวิหารและตลาดสดที่กล่าวถึงในหนังสือเรื่องอาสนวิหารและตลาดสดมาวิเคราะห์เพิ่มเติมได้
ซอฟต์แวร์ที่ดีมักมาจากความต้องการส่วนตัวของนักพัฒนา ในโหมดมหาวิหาร นักพัฒนาซอฟต์แวร์จำนวนมากเกินไปไม่ต้องการหรือไม่ชอบซอฟต์แวร์ที่พวกเขากำลังสร้าง พวกเขามองว่าการเขียนโปรแกรมเป็นงานเพียงเพื่อรับเงิน บั๊กหายากและใช้เวลาตรวจสอบอย่างรอบคอบหลายเดือนเพื่อค้นหาและปล่อย ยิ่งปล่อยนานและน้อยกว่าที่สมบูรณ์แบบ ผู้คนก็จะผิดหวังมากขึ้นเท่านั้น
มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงสำหรับรูปแบบแกรนด์บาซาร์ ผู้ใช้โครงการโอเพ่นซอร์สหลายคนนั้นเกินบรรยาย Geeks สามารถลดเวลาในการค้นหาจุดบกพร่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาต้องการเพียงกำลังใจหรือแรงจูงใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาสามารถพบจุดบกพร่อง ถามคำถาม และให้แนวทางแก้ไขได้ การปฏิบัติต่อผู้ใช้ในฐานะหุ้นส่วนในการพัฒนาเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับระบบในการปรับปรุงคุณภาพของโค้ดอย่างรวดเร็วและดีบักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งมีผู้ใช้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการต่อสู้กับความซับซ้อนของระบบ นักพัฒนาและผู้ทดสอบมีความคิดที่แตกต่างกันเกี่ยวกับโปรแกรม โปรแกรมเมอร์มองจากภายในสู่ภายนอก ผู้ทดสอบมองจากภายนอกเข้ามา โอเพ่นซอร์สทำลายภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ เนื่องจากทุกคนมีซอร์สโค้ดจริง จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับทั้งสองฝ่ายในการพัฒนารูปแบบการแสดงออกที่ใช้ร่วมกันและสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
กฎหมายของบรู๊คส์ เคยกล่าวไว้ว่า: การเพิ่มคนในโครงการที่ขยายแล้วมีแต่จะทำให้โครงการซับซ้อนขึ้น ประโยคนี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาพื้นฐานในโครงสร้างองค์กรของการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบดั้งเดิม: เมื่อจำนวนนักพัฒนาเพิ่มขึ้น ความซับซ้อนของโครงการและค่าใช้จ่ายในการสื่อสารจะเพิ่มขึ้นตามกำลังสองของจำนวนคน แต่ผลงานจะมีเพียง เพิ่มขึ้นเชิงเส้น ในโครงการโอเพ่นซอร์ส นักพัฒนาอุปกรณ์ต่อพ่วงทำงานจริงกับงานย่อยแบบกระจายและขนานกัน และเฉพาะภายในทีมหลักขนาดเล็กเท่านั้นที่จะมี Brooks โอเวอร์เฮด
นี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้โมเดล แกรนด์ บาซาร์ ประสบความสำเร็จ วิธีนี้ช่วยให้นักพัฒนาหลายหมื่นรายที่กระจายอยู่ทั่วโลกสามารถสร้างระบบปฏิบัติการระดับโลกได้ในเวลาว่าง โดยใช้การเชื่อมต่อที่อ่อนแอและความร่วมมือที่อ่อนแอผ่านอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
ข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับ ตลาดใหญ่ ในการมีบทบาทคือ ชุมชนโอเพ่นซอร์ส ชุมชนโอเพ่นซอร์สเป็นตลาดวัฒนธรรมของขวัญที่ต้องการความกระตือรือร้น ภูมิปัญญา และการทำงานอย่างหนักเพื่อให้เป็นจริง
รูปแบบองค์กรของมนุษย์ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับความขาดแคลนและความขาดแคลน รูปแบบองค์กรที่ง่ายที่สุดคือสายการบังคับบัญชา สินค้าที่หายากถูกแจกจ่ายจากส่วนกลางโดยได้รับการสนับสนุนจากกองกำลัง รูปแบบองค์กรที่พบมากที่สุดคือการแลกเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจ สินค้าที่หายากส่วนใหญ่จะถูกหมุนเวียนผ่านการค้าและความร่วมมือด้านทรัพยากร คนส่วนใหญ่มีรูปแบบทางจิตทั้งสองแบบและเข้าใจว่าพวกเขามีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร
อย่างไรก็ตาม มีรูปแบบองค์กรที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง นั่นคือ วัฒนธรรมการให้ของขวัญ วัฒนธรรมการให้ของขวัญไม่ใช่การปรับตัวให้เข้ากับความขาดแคลนทางวัตถุ เป็นการปรับตัวที่เพียงพอต่อความอุดมสมบูรณ์ของสาร โปรดทราบว่าความมากมายทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชายากต่อการรักษาและการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ที่ไม่มีความหมาย ดังนั้น ในวัฒนธรรมของขวัญ สถานะทางสังคม (มนุษย์มีแรงผลักดันตามธรรมชาติสำหรับสถานะทางสังคมที่ฝังแน่นในจิตใจของมนุษย์ผ่านวิวัฒนาการ) ไม่ได้ถูกกำหนดโดยสิ่งที่คุณควบคุม แต่โดยสิ่งที่คุณให้
ทำไมสิ่งนี้"การให้"ของวัฒนธรรมของขวัญสะท้อนให้เห็นในวัฒนธรรมเกินบรรยาย"การได้มา”? เหตุผลหลักคือ geeks ให้ของขวัญที่ซับซ้อนมาก เมื่อเทียบกับของขวัญอื่น ๆ มูลค่าของพวกมันประเมินได้ยาก ขึ้นอยู่กับการประเมินอย่างละเอียดเท่านั้น นอกจากนี้ วัฒนธรรมการให้ของขวัญส่วนใหญ่จะมีการประนีประนอม เช่น สมาพันธ์เผ่า/ชนเผ่า แต่ก็มี ไม่มีการประนีประนอมที่คล้ายคลึงกันในวัฒนธรรมโอเพ่นซอร์ส นั่นคือ ไม่มีวิธีอื่นใดที่จะได้รับสถานะมากกว่าชื่อเสียง
ดังนั้นวิธีการได้มาซึ่งสถานะทางสังคมของวัฒนธรรมการให้ของขวัญและความพิเศษของของขวัญที่เกินบรรยายทำให้คนที่เกินบรรยายมีศักดิ์ศรีในหมู่เพื่อนของพวกเขา ศักดิ์ศรีเป็นแรงจูงใจพื้นฐานที่สุดสำหรับพวกเกินบรรยาย
นอกจากจะเป็นสิ่งจูงใจแล้ว ศักดิ์ศรียังเป็นวิธีที่ดึงดูดความสนใจและความร่วมมืออีกด้วย ในระบบเศรษฐกิจของขวัญล้วน ๆ นี่อาจเป็นวิธีเดียว นอกจากนี้ หากเศรษฐกิจของขวัญ เศรษฐกิจการแลกเปลี่ยน และสายการบังคับบัญชาสัมพันธ์กัน ศักดิ์ศรีอาจมาจากสภาพแวดล้อมเดิมและแพร่กระจายไปยังสองสภาพแวดล้อมหลัง ดังนั้น เกินบรรยายสามารถรับสถานะที่สูงขึ้นในโหมดอื่น
นี่คือธรรมชาติของการพัฒนาโอเพ่นซอร์สเอง"ศักดิ์ศรี"แรงจูงใจยังเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของชุมชนโอเพ่นซอร์ส
ในชุมชนโอเพ่นซอร์ส ผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ได้รับชื่อเสียงมากกว่าการปรับปรุงเพิ่มเติมสำหรับผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ ช่องว่างในสาขานั้นทำได้ง่ายกว่าการแข่งขันกับโครงการที่จัดตั้งขึ้น โครงการใหม่ที่สนับสนุนโครงการที่มีอยู่มีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจมากกว่า เป็นไปได้ที่จะได้รับความสนใจ . เป็นผลให้โครงการโอเพ่นซอร์สมีแนวโน้มที่จะเติมเต็มช่องว่างการทำงานในพื้นที่ที่ทันสมัย (บางโครงการประสบความสำเร็จอย่างมาก) จากมุมมองทั่วโลก การทำลายหมวดหมู่ และ การเติมเต็มช่องว่าง เป็นแนวโน้มหลักในการพัฒนาโครงการโอเพ่นซอร์ส
ชื่อระดับแรก
2. ความเคลื่อนไหวทั่วโลกของ DoraHacks: จาก SMOs ถึง CMOs ถึง DAOs
วัฒนธรรม Geek และ geeks ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของโอเพ่นซอร์ส ในปี 2014 คำว่า Hacker เป็นที่รู้จักกันดีในต่างประเทศ แต่ในประเทศจีน Hackathon ยังคงว่างเปล่า ในบริบทนี้ DoraHacks ได้เปิดตัว Hackathon ชุมชนแห่งแรกในจีน ส่งเสริมและแม้กระทั่งเป็นผู้นำในการเผยแพร่วัฒนธรรมเกินบรรยายทั่วโลก
การเคลื่อนไหวทั่วโลกของ DoraHacks เป็นไปตามรูปแบบการจัดการและการพัฒนาองค์กรล่าสุด นั่นคือจากองค์กรเคลื่อนไหวทางสังคม (SMO) ที่ไม่มีระบบชนชั้นและระบบที่เคร่งครัด ไปจนถึงกลุ่มชาวเน็ตที่มีพลวัตซึ่งค่อยๆ พัฒนาไปสู่การตัดสินใจแบบกระจายอำนาจมากขึ้นและการดำเนินการที่มีต้นทุนต่ำลงด้วยวิวัฒนาการของแนวคิดของการแบนและ องค์กรเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต (Cyber Movement Organizations, CMOs) และชุดของอัลกอริทึมที่ประกอบด้วยองค์กรอิสระที่กระจายอำนาจ (Decentralized Autonomous Organisation, DAO)
ชื่อเรื่องรอง
2.1 DAO: องค์กรเศรษฐกิจประเภทใหม่
DAO เกิดจากการจินตนาการว่าคุณสมบัติของเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ เช่น สินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก การต่อต้านการเซ็นเซอร์ และการดำเนินการอัตโนมัติจะเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานขององค์กรได้อย่างไร เดิมเรียกว่า Decentralized Autonomous Company (DAC) คำทั่วไป DAO เกิดขึ้นในชุมชน Ethereum blockchain จาก DAO, DAC, DA และ More: An Incomplete Terminology Guide ของ Vitalik Buterin จากปี 2014 ของ Vitalik Buterin สามารถอธิบาย DAO ได้ว่าเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่โปรโตคอลซอฟต์แวร์แจ้งการปฏิบัติงาน วางระบบอัตโนมัติไว้ที่ศูนย์กลางและมนุษย์อยู่ที่รอบนอก ตัวอย่างเช่น ข้อตกลงซอฟต์แวร์สามารถระบุเงื่อนไขที่องค์กรจะแจกจ่ายเงินให้กับสมาชิกโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้นำไปสู่แนวคิดที่ว่าคุณค่าขององค์กรสามารถถูกทำให้เป็นอัตโนมัติและบังคับใช้ได้ด้วยรหัส ซึ่งอาจบอกเป็นนัยว่าความรู้โดยปริยายสามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่ในโปรโตคอลของซอฟต์แวร์
Want to invent your own financial derivative? With Ethereum, you can. Want to make your own currency? Set it up as an Ethereum contract. Want to set up a full-scale Daemon or Skynet? You may need to have a few thousand interlocking contracts, and be sure to feed them generously, to do that, but nothing is stopping you.
— Vitalik Buterin
แม้จะมีแนวคิดเชิงสมมุติฐานของคำนี้ แต่เมื่อ DAO เปลี่ยนจากทฤษฎีไปสู่การทดลอง ชุมชนก็นิยามคำว่า DAO ใหม่เป็นส่วนใหญ่เพื่อให้หมายถึงองค์กรที่ ไม่หยุดยั้ง หรือองค์กรที่ต่อต้านการเซ็นเซอร์ DAO แห่งแรกที่เรียกว่า DAO กลายเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชุมชน Ethereum blockchain ในปี 2559 โดยระดมทุนกว่า 150 ล้านดอลลาร์ใน ETH ในปี 2559 ในฐานะกองทุนร่วมทุนแบบกระจายอำนาจ อย่างไรก็ตาม การทดลองได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีอายุสั้นเมื่อ DAO ถูกแฮ็กหนึ่งเดือนหลังจากเปิดตัว
จากนั้นฤดูหนาวของ DAO ก็มาถึง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เยือกแข็งแม้กระทั่งหลายปีก่อนที่ตลาด cryptocurrency จะเย็นลงโดยรวม อย่างไรก็ตาม แม้ในฤดูหนาวที่ค่อนข้างยาวนานนี้ ผู้สร้างที่มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในเขต DAO ก็ยังไม่หยุดสำรวจ MakerDAO ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 และความนิยมที่เพิ่มขึ้นได้ดึงดูดผู้มีความสามารถใหม่ให้เข้ามาทำงานในภาคสนาม และ Aragon ซึ่งร่วมก่อตั้งโดย Jorge Izquierdo ผู้ร่วมก่อตั้ง ได้เริ่มพัฒนาเครื่องมือสำหรับ The DAO ในปี 2559
จนกระทั่งถึงปี 2018 เมื่อโครงสร้างพื้นฐานและแพลตฟอร์มของ DAO พัฒนาและเติบโตเต็มที่ โครงการริเริ่มที่เกี่ยวข้องกับ DAO ขนาดใหญ่ก็ได้รับความสนใจอีกครั้ง DAO ในปัจจุบันยังห่างไกลจากวัยเด็ก ใกล้เคียงกับสิ่งที่ได้รับการอธิบายว่าเป็นสมาคมโดยสมัครใจที่สอดคล้องกับหลักการดำเนินงานของบรรษัทดิจิทัล ในฐานะที่เป็นสมาคมโดยสมัครใจ พวกเขาเป็นวิธีการข้ามเขตอำนาจศาลสำหรับคนแปลกหน้า เพื่อน หรือพันธมิตรที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้มารวมตัวกันโดยไม่เปิดเผยตัวตนเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรูปแบบโทเค็น สิ่งจูงใจ และการกำกับดูแล สมาชิกของ DAO สามารถมีตัวแทนเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านโทเค็น ซึ่งมักจะทำหน้าที่เป็นสิทธิ์ในการกำกับดูแลในเวลาเดียวกัน แม้จะมีความคิดเชิงสมมุติฐานมากมายเกี่ยวกับคำนี้ แต่ชุมชนก็นิยามคำว่า DAO ใหม่เป็นส่วนใหญ่เพื่อให้หมายถึงองค์กรที่ ไม่หยุดยั้ง หรือองค์กรที่ต่อต้านการเซ็นเซอร์ เมื่อเปลี่ยนจากทฤษฎีไปสู่การทดลอง
การกระจายอำนาจ:
การกระจายอำนาจ:กฎของชุมชนกำหนดขึ้นโดยชุมชน ไม่ได้ควบคุมโดยองค์กรส่วนกลาง และไม่มีโครงสร้างแบบลำดับชั้น
โทเค็น:โทเค็นถูกใช้เป็นเงื่อนไขการมีส่วนร่วมและกลไกจูงใจเพื่อส่งเสริมการพัฒนาของ DAO เป็นต้น ควรสังเกตว่าโทเค็นสามารถเป็นโทเค็นที่มีค่าหรือแต้มที่ไม่มีค่าก็ได้
เอกราช:สมาชิกชุมชนไม่จำเป็นต้องได้รับการว่าจ้างให้มีส่วนร่วมในการปกครองของชุมชนโดยอิสระ
ความมีเหตุผลในตนเอง:การดำเนินงานของ DAO อยู่ภายใต้การควบคุมร่วมกันโดยสมาชิกในชุมชนทั้งหมดในรูปแบบของข้อเสนอของชุมชนและการลงคะแนนเสียง
ความเปิดกว้างและความโปร่งใส:DAO ส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะ กฎและบทบาทของพวกเขา ตลอดจนกระบวนการและผลลัพธ์ของการตัดสินใจแต่ละครั้งตั้งแต่ข้อเสนอ การอภิปราย ไปจนถึงการลงคะแนนจะถูกบันทึกต่อสาธารณะและตรวจสอบย้อนกลับได้
การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ DAO นั้น ในแง่หนึ่ง ความหลีกเลี่ยงไม่ได้ทางประวัติศาสตร์ของการพัฒนาองค์กรแบบรวมศูนย์สู่การกระจายอำนาจ และในอีกแง่หนึ่ง มันก็เกิดจากการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและการแบ่งส่วนย่อยของโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศน์พื้นฐาน
ปี 2020 เป็นของ DeFi ปี 2021 เป็นของ NFT และปี 2022 จะเป็นปีของ DAO
— Messari 2021.12
ในฐานะที่เป็นรูปแบบใหม่ขององค์กรทางเศรษฐกิจ DAO กำลังพัฒนาและแบ่งย่อยออกเป็นสถานการณ์การใช้งานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง: ทีมนักพัฒนา (DeveloperDAO), ชุมชนโปรโตคอล DeFi (MakerDAO), ชุมชนนักพัฒนาเครือข่ายสาธารณะ (OpenDAO), องค์กรบริการด้านกฎหมาย (LexDAO) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร องค์กร (UkraineDAO), องค์กรดนตรี NFT (BeetsDAO), องค์กรศิลปะขนาดใหญ่ (PleasrDAO), สื่อกระจายอำนาจ (DAOrayaki) เป็นต้น
ชื่อเรื่องรอง
2.2 การเคลื่อนไหวทั่วโลกของ DoraHacks
หลักการออกแบบของกิจกรรม DoraHacks ทั้งหมดคือ มีแฮ็กเกอร์เป็นศูนย์กลาง ดังนั้นเราจะจัดเตรียมอาหาร เบียร์ เครื่องดื่ม ดนตรีที่ดีที่สุด และทุกๆ ขั้นตอนได้รับการออกแบบอย่างละเอียด อาสาสมัครของ Dora ได้รับการคัดกรองอย่างเข้มงวด มีอาสาสมัครมากกว่า 50 คนลงทะเบียนเข้าร่วม งานนี้รวมถึงอาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งและมหาวิทยาลัยซิงหัว ตลอดจนนางแบบ และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ทุกคนชื่นชม Hacker เชื่อในพลังของเทคโนโลยี และอยากเห็นความมหัศจรรย์ทางเทคนิคของทุกคนในงาน Hackathon
---DaroHacks Penny
มักจะเริ่มต้นด้วยแนวคิดง่ายๆ นั่นคือ การเคลื่อนไหวทางสังคม
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2014 Owl Lab ที่ Tsinghua University ซึ่งสามารถรองรับได้เพียง 60 คน ได้กลายเป็นสถานที่ที่ DoraHacks ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรกที่ DoraHacks แนะนำ คำศัพท์ใหม่ Hackathon (hackathon) สู่สายตาสาธารณะในประเทศ
DoraHacks เป็นเจ้าภาพแฮ็กกาธอนครั้งแรกของมหาวิทยาลัย Tsinghua, Peking University, Beihang University, Shanghai Jiaotong University และมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในช่วงแรกๆ ของปี 2014-2015 ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาจากโรงเรียนที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ เมื่ออินเทอร์เน็ตของจีนเข้าสู่ยุคทอง นักศึกษาที่เรียนวิชาเอกวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์มีความสนใจอย่างมากในวัฒนธรรมของแฮ็กเกอร์และเทคโนโลยีที่เกินบรรยาย และพวกเขายังมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะสื่อสารกับศิษย์เก่าคนอื่นๆ ความสนใจ/ความเต็มใจนี้สามารถเปลี่ยนเป็นผลผลิตทางสังคมได้อย่างรวดเร็ว
คำอธิบายภาพ
DoraHacks & BSC Hackathon 2021
ปี 2557-2559 เป็นก้าวแรกของการพัฒนา DoraHacks และเป็นปีที่มีการส่งเสริมวัฒนธรรมแฮ็กเกอร์ของจีน นี่คือจุดเปลี่ยนที่โดดเด่นบางประการ:
ประการแรก ความเข้าใจของแฮ็กเกอร์ ก่อน DoraHacks ความเข้าใจของทุกคนเกี่ยวกับการแฮ็กนั้นอยู่ในระดับของแฮ็กเกอร์ที่เสื่อมเสียมากกว่า การเกิดขึ้นของ DoraHacks ทำให้สาธารณชนเริ่มเข้าใจและยอมรับ: แฮ็กเกอร์เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือเกินบรรยายที่ช่วยให้มนุษย์เอาชนะปัญหาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ซับซ้อนมากมาย
ประการที่สอง กฎของเกม Hackathon มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มโหมดใหม่ ในเวลาไม่ถึงสามปีของการพัฒนา DoraHacks ใช้เงิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นทุนเริ่มต้น (ทุนเริ่มต้นของ DoraHacks คือ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐที่ Eric ผู้ก่อตั้ง DoraHacks คืนให้เขาจากเพื่อนของเขาในการเริ่มต้น- เพิ่มทุน) ไม่เพียงประสบความสำเร็จในการจัดงานหลายร้อยงานในประเทศจีนเท่านั้น Hackathon นี้ได้เชื่อมโยงแฮ็กเกอร์เกือบพันคนจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง, มหาวิทยาลัยซิงหัว, มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง ฯลฯ และที่สำคัญกว่านั้นวัฒนธรรม geek ที่ไม่เหมือนใครได้เปลี่ยนกฎของเกมดั้งเดิม ของอุตสาหกรรมทั้งหมดทำให้บริษัทที่แต่เดิมปิดตัวอยู่ภายในโรงงานขนาดใหญ่หรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่ารูปแบบกิจกรรมการแข่งขันแฮ็กเกอร์ขนาดเล็กภายในมหาวิทยาลัยได้กลายเป็นสถานที่ที่แฮ็กเกอร์ทุกคนทั่วโลกสามารถทำงานร่วมกันและสื่อสารกันได้
หลักการออกแบบของกิจกรรม DoraHacks ทั้งหมดคือ มีแฮ็กเกอร์เป็นศูนย์กลาง ดังนั้นเราจะจัดเตรียมอาหาร เบียร์ เครื่องดื่ม ดนตรีที่ดีที่สุด และทุกๆ ขั้นตอนได้รับการออกแบบอย่างละเอียด อาสาสมัครของ Dora ได้รับการคัดกรองอย่างเข้มงวด มีอาสาสมัครมากกว่า 50 คนลงทะเบียนเข้าร่วม งานนี้รวมถึงอาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งและมหาวิทยาลัยซิงหัว ตลอดจนนางแบบ และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ทุกคนชื่นชม Hacker เชื่อในพลังของเทคโนโลยี และอยากเห็นความมหัศจรรย์ทางเทคนิคของทุกคนในงาน Hackathon
---DaroHacks Penny
จากปี 2014 ถึงปี 2016 พัฒนาการของ DoraHacks สามารถสรุปได้ดังนี้: การเคลื่อนไหวทางสังคมที่เชื่อมโยงแฮ็กเกอร์และเผยแพร่วัฒนธรรมเกินบรรยาย มันมีศูนย์กลางอยู่ที่ตัวละครวิญญาณอย่างเอริค และด้วยความเชื่อง่ายๆ (เป้าหมายที่ไม่ได้ขัดเกลาและไม่ได้วางแผนไว้) มันขับเคลื่อนกลุ่มคนที่มีความเชื่อร่วมกันให้สร้างสถานที่ที่มีการจัดการอย่างหลวมๆ กลุ่มคนที่มีใจเดียวกันนี้สามารถเรียนรู้จากกันและกันและทำงานร่วมกันได้ แต่จังหวะนั้นไม่จำเป็นต้องเหมือนกันและพวกเขาอาจไม่มีความเข้าใจที่ชัดเจนและชัดเจนเกี่ยวกับแผนการพัฒนาในอนาคตขององค์กรที่มีอยู่ ไม่มีความชัดเจน การแบ่งระดับชั้นภายในองค์กร โดยการเพิ่ม เวลาใหม่และเก่าและความชำนาญในการปฏิบัติงานจะแบ่งบทบาท
ติดตามเทรนด์และรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจาก DAO
ความแตกต่างระหว่างความล้มเหลวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับความสำเร็จในบางครั้งมักมีอยู่ 1-2 อย่างที่ถูกต้องจากทั้งหมด 100 ข้อ
— หมายเหตุบรรณาธิการ Shaun
คำอธิบายภาพ
DoraHacks FinHack 2017
Hackathon จัดขึ้นในปี 2015 และ 2016 และมีมหาวิทยาลัยสำคัญเพียงไม่กี่แห่ง เช่น Peking University, Tsinghua University, Beihang University และ Beiyou เท่านั้นที่สามารถจัดได้ มีแฮ็กเกอร์ไม่กี่คนในสังคม และทุกคนยังคงเขียนโค้ดด้วย BAT ความเจ็บปวด และ 17 ปีแรก ฉันจัดงาน Hackathon Finhack ทั่วประเทศครั้งแรก 70% มาจาก Baidu, Tencent ฯลฯ ในอุตสาหกรรม ฉันรู้สึกประหลาดใจในตอนแรก ต่อมา เหตุการณ์ในเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นก็มีสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่าชุมชนแฮ็กเกอร์เป็นที่นิยมสำหรับทุกคน ยอมรับ
— DoraHacks COO Penny
DoraHacks ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของบริษัทขนาดใหญ่ ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักมากขึ้นเท่านั้น แต่การมีส่วนร่วมของเงินทุนยังบังคับให้ทีมผู้ก่อตั้ง DoraHacks ต้องคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาองค์กรในอนาคต DoraHacks ตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2016 เป็นองค์กรเคลื่อนไหวทางสังคมที่เชื่อมโยงแฮ็กเกอร์และส่งเสริมวัฒนธรรม geek เป็นหลัก ไม่แสวงหากำไรและสโลแกนคือแสวงหาประสบการณ์การบริการขั้นสุดยอดสำหรับ geek ทุกคน อย่างไรก็ตาม โครงสร้างองค์กรแบบ SMO แบบหลวมๆ นี้ไม่เพียงพอที่จะรองรับการขยายตัวอย่างรวดเร็วในระดับประเทศของ DoraHacks แมทธิว เอฟเฟ็กต์ของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตกำหนดว่าหากบริษัทสตาร์ทอัพยังคงอยู่ในสถานที่เดิมเป็นเวลา 6 เดือน ก็เกือบจะเทียบเท่ากับการประกาศความตาย
คำอธิบายภาพ
ภาพหมู่งาน DoraHacks GHS 2018 ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
2017-2018 DoraHacks กำลังก้าวไปสู่ขั้นตอนใหม่ เหตุผลที่ DoraHacks สามารถพัฒนาอย่างรวดเร็วในขั้นตอนนี้ และขนาดของการพัฒนาได้เปลี่ยนจากวิทยาเขตเดียวเป็นโลกาภิวัตน์ นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบองค์กร วัฒนธรรมเกินบรรยาย ความเคลื่อนไหวของโอเพ่นซอร์ส และการระบาดครั้งที่สองทั่วโลกของเทคโนโลยีเกิดใหม่ (บล็อกเชน) มันยังมีบทบาทในการเติมไฟในจุดวิกฤตอีกด้วย ในขั้นตอนนี้ DoraHacks ได้นำเสนอแนวคิดการดำเนินงานของการ เชื่อมต่อ ทุกๆ geek ในโลก ซึ่งเหมาะสมมากสำหรับความต้องการในการพัฒนาของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตในขณะนั้น
เรื่องของ ก้าวใหญ่ไปก็ง่ายไป... มักจะถูกพูดถึงอยู่เสมอ แต่ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
DoraHacks ในปี 2019 อยู่ในช่วง เติบโต ของ ทฤษฎีวัฏจักรการพัฒนาองค์กร เช่นเดียวกับสตาร์ทอัพอื่นๆ ที่เคยผ่านช่วงเติบโต พวกเขามีเงินทุน ประสบการณ์ ขนาด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนงานสำหรับการขยายขนาด เช่นเดียวกับ KPI มันจะเริ่มละเลยการจัดการแบบละเอียด กล่าวคือ ในขั้นตอนการพัฒนาของการขยายตัวอย่างรวดเร็วขององค์กรมีงานที่สำคัญมากกว่าแบบละเอียด ดังนั้น จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะก้าวเข้าสู่หลุมพราง
งาน DoraHacks ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในปี 2019 คืองาน Thousand People Hackathon of the Fourth Industrial Revolution ที่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย สื่อต่าง ๆ รายงานว่าความสำคัญของงานเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของ geeks ในประเทศในเชิงบวก
การพัฒนาขนาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างขององค์กรแบบรวมศูนย์จะนำไปสู่ปัญหาที่ค่อย ๆ เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น โครงสร้างการจัดการองค์กรที่บวมโต ประสิทธิภาพในการตัดสินใจต่ำ และค่าใช้จ่ายที่ไม่ถูกต้องที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน โลกก็เริ่มมีกระแสสะท้อนถึงรูปแบบของแฮกกาธอน พื้นหลังของคลื่นสะท้อนคือการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของสภาพแวดล้อมโลก (โรคระบาด ฯลฯ ) การแบ่งงานแบบดั้งเดิมและความร่วมมือของมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลง สำนักงานแบบกระจาย (ระยะไกล) ค่อยๆ กลายเป็นวิธีสำนักงานหลักในอุตสาหกรรม และโหมดจัดหนักที่คล้ายกับการสังสรรค์แบบออฟไลน์ไม่เหมาะกับความต้องการด้านการพัฒนาสังคมอีกต่อไป ในขณะเดียวกัน รูปแบบของแฮ็กกาธอนให้ความสนใจกับการแข่งขันมากเกินไป และขาดกลไกติดตามผลสำหรับโครงการที่เข้าร่วม ส่งผลให้อัตรา Conversion ของโครงการลดลงและลดลง (5%-8%) ผลกระทบพื้นฐานที่สุดของคลื่นสะท้อนนี้ต่อ DoraHacks คือการตั้งคำถามถึงวิธีการใช้งานและการบังคับใช้ผลิตภัณฑ์ซ้ำๆ แม้แต่ความยั่งยืนของรูปแบบธุรกิจก็กำลังเผชิญกับการทดสอบที่รุนแรง
ไม่ใช่ทุกบริษัทผู้ประกอบการที่สามารถกลายเป็น หมู ที่ยืนอยู่บนสายลมในระยะเติบโตได้
ปี 2019-2020 เป็นเวทีสำหรับ DoraHacks ในการสำรวจรูปแบบองค์กรใหม่และการสะท้อนกลับ DoraHacks รวบรวมคำสำคัญบางคำในขั้นตอนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ของอินเทอร์เน็ตและบล็อกเชน อย่างไรก็ตาม ลมจะหยุดเสมอ หรือทิศทางลมจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในขณะที่สภาพแวดล้อมของตลาดเปลี่ยนแปลงไป องค์กรต่างๆ ยังต้องปรับกลยุทธ์การพัฒนาให้ทันท่วงที ปรับแผนธุรกิจและแผนผลิตภัณฑ์จากภายนอก และปรับโครงสร้างองค์กรภายใน
เกิดใหม่อีกครั้ง Gong DAO จะกลายเป็นธรรมชาติ
DoraHacks เป็นผู้จัดงานแฮ็กกาธอนระดับโลกและเป็นหนึ่งในชุมชนนักพัฒนา Web3 แบบมัลติเชนที่มีการใช้งานมากที่สุดในโลก เปิดตัวแคมเปญแฮ็กทั่วโลกและจัดหาชุดเครื่องมือสำหรับเข้ารหัสลับเพื่อช่วยนักพัฒนาทั่วโลกในการระดมทุนสำหรับแนวคิดและ BUIDL ของพวกเขา จนถึงตอนนี้ โครงการมากกว่า 2,000 โครงการจากชุมชน DoraHacks ได้รับเงินสนับสนุนและการบริจาครูปแบบอื่นๆ มากกว่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐจากผู้สนับสนุนทั่วโลก และมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ประมาณ 100,000 รายต่อเดือนจาก 152 ประเทศ ชุมชนโอเพ่นซอร์ส, DAO และระบบนิเวศบล็อกเชนหลักมากกว่า 20 แห่งจำนวนมากใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Dora (dorahacks.io) อยู่แล้วสำหรับการระดมทุนแบบควอดราติก การสนับสนุนชุมชน แฮ็กกาธอน การกระจายเงินรางวัล และการกำกับดูแลชุมชนนักพัฒนา
— ตัดตอนมาจาก DoraHacks.io
DoraHacks เกิดใหม่จาก Nirvana ได้เอาชนะอุปสรรคที่ผ่านไม่ได้มากมายเพื่อให้บริษัทสตาร์ทอัพเติบโตและเติบโตในบริษัท ด้วยวิวัฒนาการขององค์กรต่างๆ ทั่วโลก จากองค์กรแบบรวมศูนย์เป็นองค์กรแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Organization: DAO) ในช่วงสองปีที่ผ่านมา DoraHacks ประสบความสำเร็จในการคว้าโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาฟิลด์ Web3 DoraHacks ในปัจจุบันไม่เพียงแต่มีทราฟฟิกที่เสถียรมากขึ้นและแพลตฟอร์มเครือข่ายที่เป็นมืออาชีพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาสายผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมอย่างเป็นอิสระ เช่น Dora Factory, Hackerlink (ต่อมาคือ DoraHacks.io), HackathonDAO เป็นต้น และยังได้บ่มเพาะความล้ำสมัยอีกมากมาย โครงการนวัตกรรม โครงสร้างองค์กรของ DoraHacks ยังได้พัฒนาจาก SMO และ CMO ไปเป็นรูปแบบ DAO ขององค์กรแบบกระจายอำนาจ
วิวัฒนาการขององค์กรต่างๆ ทั่วโลกจากองค์กรแบบรวมศูนย์เป็นองค์กรแบบกระจายอำนาจ (DAO) มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมจริง (เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ พายุโรคระบาด) ในแง่หนึ่ง และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่างต่อเนื่อง (Web3, blockchain ) ในทางกลับกัน เกี่ยวข้องกับการวนซ้ำ ที่สำคัญกว่านั้น มันสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเส้นทางของการพัฒนาในช่วงแรกขององค์กร และแม้แต่ค่านิยมของผู้ก่อตั้ง/ทีมผู้ก่อตั้ง
คุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดขององค์กรแบบกระจายอำนาจ (DAO) คือการกระจายอำนาจของการจัดการโดยตัวเร่งปฏิกิริยาและแม้กระทั่งทีมงานหลัก จากบทสัมภาษณ์ล่าสุดของเอริค จะเห็นได้ว่าวิธีการถ่ายโอนการควบคุมของ DoraHacks จากองค์กรส่วนกลางไปยังสมาชิกขององค์กรเป็นหัวข้อที่เขาสำรวจอย่างจริงจัง การเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้ดูเหมือนจะเป็นเพียงอำนาจธรรมดาๆ ขององค์กร และการเปลี่ยนแปลงในการปรับโครงสร้างนั้น จริงๆ แล้วต้องอาศัยวิธีการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ซับซ้อนเข้ามาช่วย แบรนด์ย่อย DoraFactory เป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ที่แข็งแกร่งที่สุด
Dora Factory เป็นสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่สำหรับทุกองค์กรในการสร้าง DAO ได้อย่างง่ายดาย และเตรียมฟังก์ชั่นการกำกับดูแลบนเชนที่ยอดเยี่ยมมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการหลักของ DAO ในแง่ของการกำกับดูแล การระดมทุน การทำงานร่วมกัน การจัดการ และอื่นๆ
สำหรับเรา DAO ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องลงคะแนนเท่านั้น DAO ควรเป็นชุดของโซลูชันการกำกับดูแลบนเชนที่สมบูรณ์และสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ เราจึงสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบเปิด และ DAO ทั้งหมดสามารถใช้งานได้อย่างอิสระ นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่าโครงสร้างพื้นฐาน DAO-as-a-Service (DAO-as-a-Service)”
— Dora Factory Steve Ngok
DoraHacks ในปัจจุบันมีองค์ประกอบที่สำคัญทั้งหมดของการเปลี่ยนแปลง: ทีมหลักที่มีโครงสร้างที่ดี แพลตฟอร์มเครือข่ายเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย กลุ่มพันธมิตรที่มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้สูงและเป้าหมายที่เป็นหนึ่งเดียว และความเชื่อที่มีเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน ส่วนที่เหลือ เราอาจปล่อยให้เป็นไปตามเวลาและเฝ้าดูอย่างอดทน
หากมีงานเลี้ยงในโลกนี้ ที่กลุ่มเพื่อนที่มีใจเดียวกันซึ่งอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ และเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างไม่รู้จบ สามารถนั่งด้วยกันและช่วยเหลือกันให้เติบโตผ่านการพูดคุยและหัวเราะแบบสบายๆ มันจะวิเศษขนาดไหน!
— ฉบับภาษาอังกฤษคัดลอกมาจากบทความสั้นๆ ที่เขียนโดย Eric ผู้ก่อตั้ง DoraHacks ระหว่างที่เขาอยู่ที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 และฉบับภาษาจีนแปลโดยบรรณาธิการ
ชื่อระดับแรก
3. Dorahacks และ Open Source Developers: จาก Link Hacker ไปจนถึง Funding BUIDLer
ชื่อเรื่องรอง
2014-2019: แฮ็กเกอร์และลิงก์
ในปี 2014 จีนไม่มีองค์กร geek และชุมชน geek ก็ว่างเปล่า ในขณะที่นักพัฒนาชาวจีนกำลังระเบิด ในกรณีนี้ การไม่มีแฮ็กเกอร์และชุมชนโอเพ่นซอร์สจะนำไปสู่ปรากฏการณ์ที่กล่าวถึงใน กฎหมายบรู๊คส์ ข้างต้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเชื่อมโยงนักพัฒนาโอเพ่นซอร์สทั่วโลกและการสร้างชุมชนโอเพ่นซอร์สของจีนอย่างแท้จริงคือโอกาสและภารกิจ ดังนั้น DoraHacks จึงใช้สิ่งนี้เป็นภารกิจในการสร้างชุมชนแฮ็กเกอร์แห่งแรกในจีน ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มการเชื่อมต่อ ชุมชนแฮ็กเกอร์ไม่เพียงแต่เชื่อมต่อแฮ็กเกอร์กับแฮ็กเกอร์เท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงแฮ็กเกอร์กับอุตสาหกรรม ทำให้แฮ็กเกอร์สามารถติดต่อกับปัญหาใหม่ ๆ ในความเป็นจริง
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ DoraHacks จะเชื่อมโยงแฮ็กเกอร์ทั่วโลกและทำให้วัฒนธรรมกี๊กเป็นที่นิยม และสร้างชุมชนกี๊กผ่านโมเดลต่อไปนี้:
1) การสร้างสถานที่แฮ็กเกอร์
ในปี 2014 DoraHacks เริ่มต้นจาก Owl Lab ของมหาวิทยาลัย Tsinghua ภายในเวลา 5 ปี DoraHacks ได้เปลี่ยนจากกีฬาระดับวิทยาลัยไปเป็นกีฬาระดับชาติและจากนั้นเป็นกีฬาระดับโลก
ในปี 2013 Eric จัดงาน CERN Webfest 2013 ที่ CERN (ที่ซึ่ง World Wide Web ถือกำเนิดขึ้น)
ณ สิ้นปี 2014 Hackathon ของมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่แห่งแรกในจีนแผ่นดินใหญ่จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัย Tsinghua
ในปี 2558 Google Solve For X สำหรับเด็กเป็นครั้งแรกในจีนแผ่นดินใหญ่และแฮกกาธอนเกือบ 60 รายการได้จัดขึ้น
ในปี 2559 และ 2560 งาน Fintech Hackathon ขนาดใหญ่ครั้งแรกในจีนแผ่นดินใหญ่จัดขึ้น
ในปี 2560 Hackathon บล็อกเชนขนาดใหญ่แห่งแรกในกรุงปักกิ่ง
ในปี 2018 แฮ็กกาธอนจัดขึ้นใน 15 เมืองใน 8 ประเทศทั่วโลก โดยมี Matic และทีมดาราอื่นๆ เข้าร่วม
ในปี 2019 งานแฮกกาธอนพันคนครั้งแรกและใหญ่ที่สุดของจีน: การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0
ในระหว่างกระบวนการนี้ DoraHacks ยืนกรานที่จะเริ่มต้นจากปัญหาที่เกิดขึ้นจริง และไม่ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมและองค์กรสุ่มสี่สุ่มห้า จึงทำให้วัฒนธรรมของแฮ็กเกอร์เป็นที่นิยมและสร้างชุมชน geek ที่ใหญ่ที่สุดในจีนและเป็นหนึ่งในชุมชน geek ที่ใช้งานมากที่สุดในโลก DoraHacks อยู่ในระหว่างการยึดมั่นในความตั้งใจเดิม สถานที่เกินบรรยายถูกสร้างขึ้นสำหรับนักพัฒนาโอเพ่นซอร์สชาวจีน
2) ลิงค์แฮ็กเกอร์
เป้าหมายสูงสุดของชุมชน geek คือการสร้างผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมวดหมู่นักฆ่าและเติมช่องว่างในสนาม ในช่วงแรกของการสร้าง DoraHacks นักพัฒนาโอเพ่นซอร์สชาวจีนมีลักษณะสองประการ: ไม่มีค่าที่ชัดเจนและไม่มีผลงานชิ้นเอกที่เป็นต้นฉบับ ซึ่งหมายความว่าในชุมชนโอเพ่นซอร์สทั่วโลก จีนไม่สามารถสร้างอิทธิพลกระแสหลักได้ ดังนั้น Dorahacks จึงเชื่อมโยงปัญหาในโลกแห่งความจริงกับแฮ็กเกอร์ แก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง และสร้างอิทธิพลที่ไม่เหมือนใคร
ชื่อเรื่องรอง
2020-～: BUIDler และเงินทุน
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้นในสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมทั่วโลก และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้เชื่อมโยงกันเพื่อก่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมีใหม่ๆ
ประการแรก ด้วยการระบาดของโควิด-19 กองกำลังต่อต้านโลกาภิวัตน์ได้พัฒนาจากความคิดต่อต้านโลกาภิวัตน์ในอดีตและนโยบายต่อต้านโลกาภิวัตน์เป็น โลกได้เปลี่ยนจากการเคลื่อนย้ายอย่างเสรีไปสู่การปิดล้อมซึ่งกันและกัน และโหมดสำนักงานรายวันได้เปลี่ยนจากสำนักงานออฟไลน์แบบรวมศูนย์เป็นโหมดการทำงานแบบกระจายออนไลน์ที่ยืดหยุ่น
ประการที่สอง การมาถึงของตลาดกระทิงในอุตสาหกรรมการเข้ารหัสได้ส่งเสริมการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและการพัฒนาอุตสาหกรรมการเข้ารหัส และได้กลายเป็นกำลังสำคัญที่เกิดขึ้นใหม่ในด้านภูมิรัฐศาสตร์ ตัวอย่างเช่น กองทุนหลายสิบล้านถูกระดมทุนเพื่อการป้องกันของยูเครน รัสเซียถูกไล่ออกจาก SWIFT ฝ่ายบริหารของ Biden ประกาศคำสั่งผู้บริหารเกี่ยวกับการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล และยอมรับว่า cryptocurrencies และเทคโนโลยี Web3 มีความสำคัญต่ออนาคตของประเทศสหรัฐอเมริกา ความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
การระบาดของโรคระบาดและการพัฒนาเทคโนโลยีการเข้ารหัสทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวพันในด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและเทคโนโลยี ในสภาพแวดล้อมขนาดใหญ่นี้ โมเดลแฮกกาธอนยังได้เปลี่ยนจากโมเดลการพัฒนาสุดโต่งแบบรวมศูนย์ภายในเวลาจำกัด มาเป็น BUIDL ทุกที่ทุกเวลา
เหตุใดจึงเน้น BUIDL อุตสาหกรรมการเข้ารหัสและ Web3 เป็นพรมแดนใหม่สำหรับผู้ที่มีความรู้เกินบรรยาย BUIDL เป็นคำที่มาจากอนุพันธ์ของ HODL และมักจะหมายถึงผู้เข้าร่วมในระบบนิเวศของสกุลเงินดิจิทัล ไม่ว่าแนวโน้มของตลาดโดยรวมจะขึ้นหรือลงก็ตาม พวกเขากำลังสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสกุลเงินดิจิทัลจะอยู่ในตลาดหมี ผู้เชื่อที่แท้จริงจะยังคงปลูกฝัง สร้าง และขยายระบบนิเวศต่อไป ดังนั้น BUIDLer จึงเป็นคนที่ใส่ใจในอุตสาหกรรมนี้จริงๆ และหวังว่าจะส่งเสริมบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลไปทั่วโลก!
DoraHacks มุ่งเน้นไปที่ฟิลด์ Crypto และ Web3 ตั้งแต่ปี 2560 และได้พัฒนาจาก Hackathon ไปสู่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานและผลิตภัณฑ์ ในปี 2020 ตามลักษณะของอุตสาหกรรม Crypto DoraHacks ได้เปิดตัวกลไกการจัดหาเงินทุนแบบ Quadratic financing และพัฒนาต่อไปเป็นกลไกการระดมทุนแบบ Quadratic Financing บน MACI
สำหรับ geeks เป็นเรื่องยากมากที่จะเปลี่ยนการพัฒนาโอเพ่นซอร์สให้เป็นผลิตภัณฑ์ สำรวจรูปแบบธุรกิจและเงินทุนเริ่มต้นในขั้นต้น ในกระบวนการนี้ DoraHacks ได้เปลี่ยนความสัมพันธ์กับแฮ็กเกอร์จากลิงค์ไปยัง BUIDLer ผ่านแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐาน และให้ทุนสนับสนุนการเคลื่อนไหวแบบหลายห่วงโซ่เพิ่มเติม โหมดเฉพาะมีดังนี้:
ให้ BUIDLer มีโอกาสเปิดรับบ่อยขึ้น
DoraHacks.io เป็นแพลตฟอร์มที่ดึงดูดความสนใจของสถาบันการลงทุนและบุคคลทั่วไป ยิ่งคุณสมัคร DoraHacks Grant/Hackthon มากเท่าไร สถาบันการลงทุนหรือนักลงทุนรายย่อยก็อาจให้ความสนใจมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น DoraHacks จะถ่ายทอดสด Youtube สุดพิเศษสำหรับเกือบทุกโครงการ ทำให้ BUIDLers มีโอกาสเปิดเผยตัวเอง หากเป็นทีมจีนก็จัดถ่ายทอดสดที่สถานี B ได้เช่นกัน DoraHacks มีผู้ติดตามมากกว่า 50,000 คนบน Binance ถ่ายทอดสดเพียงอย่างเดียว เมื่อโครงการถูกเปิดเผย ปริมาณการรับชมทั้งหมดอาจสูงถึงกว่า 200,000 ครั้ง
ให้การสนับสนุนระบบนิเวศมากขึ้นสำหรับ BUIDLer
ไม่ว่าระบบนิเวศจะเป็นแบบใด เพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้นของมันเอง มันจะสนับสนุนโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ในระบบนิเวศอย่างแน่นอน ยิ่งระบบนิเวศเติบโตมากเท่าไหร่ เกณฑ์การฟักไข่ก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น Ploygon, Solana และ BNB หากคุณต้องการเข้าร่วมระบบนิเวศที่สมบูรณ์เหล่านี้ในวันนี้ คุณจะต้องมีข้อกำหนดที่สูงขึ้นสำหรับโครงการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในทำนองเดียวกัน ระบบนิเวศเองยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา และข้อกำหนดสำหรับการบ่มเพาะโครงการด้านนิเวศวิทยาของตัวเองจะต่ำกว่ามาก เช่น Moonrive, Boba เป็นต้น ไม่ว่าระบบนิเวศจะเป็นแบบใด DoraHacks สามารถให้การสนับสนุนระบบนิเวศตามธรรมชาติของ BUIDLer ได้
วงกลม BUIDler ที่ดีขึ้น
ความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมและการแลกเปลี่ยนข้อมูลมีความสำคัญมาก ผู้ใช้ DoraHacks อยู่ในยุโรป อเมริกา จีน แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วัฒนธรรมวงกลมช่วยให้ BUIDLers เข้าใจการตั้งค่าโครงการและเงื่อนไขการพัฒนาในแต่ละภูมิภาคได้ดีขึ้นและสร้างความร่วมมือ
ให้เงินทุนที่เป็นประโยชน์มากขึ้นสำหรับ BUIDLer
BUIDLer บน DoraHacks สามารถมีโอกาสที่จะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจริง ๆ ปัจจุบันมีวิธีการจัดหาเงินทุนสองวิธี: Grant และ Hackathon
ให้การลงทุนรอบเมล็ดพันธุ์สำหรับ BUIDLer
Grant/Hackathon เชิงนิเวศวิทยาแต่ละรายการจะมีกองทุนเพื่อการลงทุนเริ่มต้น หากคุณสนใจ คุณสามารถสอบถามเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับสถานะล่าสุดของกองทุนเพื่อการลงทุนเมล็ดพันธุ์นิเวศต่างๆ บนเว็บไซต์ DoaraHacks
จนถึงปัจจุบัน โครงการมากกว่า 2,000 โครงการจากชุมชน DoraHacks ได้รับเงินช่วยเหลือและการบริจาคในรูปแบบอื่นๆ มากกว่า 15 ล้านดอลลาร์จากผู้สนับสนุนทั่วโลก และมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ประมาณ 100,000 รายต่อเดือนจาก 152 ประเทศ ชุมชนโอเพ่นซอร์ส, DAO และระบบนิเวศบล็อกเชนหลักมากกว่า 20 แห่งจำนวนมากใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Dora ( DoraHacks.io ) อยู่แล้วสำหรับการจัดหาเงินทุนแบบควอดราติก แกรนต์ การสนับสนุนของชุมชน แฮ็กกาธอน การกระจายเงินรางวัล และการพัฒนาธรรมาภิบาลชุมชนนักพัฒนา
ชื่อระดับแรก
4. ประวัติของ DoraHacks และอุตสาหกรรมการเข้ารหัส
ชื่อเรื่องรอง
การพัฒนาอินเทอร์เน็ตและบล็อกเชนก่อนการถือกำเนิดนั้นมีความสอดคล้องกันอย่างมากที่โหนดเวลาสำคัญ
ในทศวรรษที่ 1960 การก่อตั้งเครือข่ายคอมพิวเตอร์บริเวณกว้างเครื่องแรกถือเป็นจุดกำเนิดของอินเทอร์เน็ต
ทศวรรษที่ 70 การพัฒนาระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ Bailey W. Diffie และ Martin E. Hellman สองปรมาจารย์ด้านวิทยาการเข้ารหัสลับ ได้ตีพิมพ์บทความเรื่อง ทิศทางใหม่ของการเข้ารหัส ซึ่งกำหนดทิศทางการพัฒนาของการเข้ารหัสทั้งหมด
3.80s การสร้างอีเธอร์เน็ต Lamport เสนอปัญหา Byzantine Generals โดยระบุว่าทฤษฎีความน่าเชื่อถือและการปฏิบัติของการคำนวณแบบกระจายได้เข้าสู่ขั้นตอนที่สำคัญ
ในปี 1982 เลสลี่ แลมพอร์ตได้ขยายกระบวนการบรรลุฉันทามติและตัดสินใจว่าจะส่งทหารในกองทัพไปยังสนามคอมพิวเตอร์หรือไม่ โดยพยายามสร้างระบบกระจายที่ทนทานต่อความผิดพลาด ซึ่งสามารถรับประกันการทำงานปกติของระบบแม้ว่าบางโหนดจะล้มเหลวก็ตาม โหนดที่ยึดตามความไว้วางใจเป็นศูนย์บรรลุฉันทามติและรับรองความสอดคล้องของการส่งข้อมูล
—Byzantine Generals Problem โดย Lamport
ในช่วงทศวรรษที่ 90 เวิลด์ไวด์เว็บ (www.) ได้เปิดตัวขึ้น วิธีการ HashCash นั่นคืออัลกอริทึม POW (Proof of Work) รุ่นแรกปรากฏขึ้น
ในปี 2544 เบราว์เซอร์และเครื่องมือค้นหาแรกถูกสร้างขึ้น ในขณะเดียวกัน Napster, EDonkey 2000 และ BitTorrent ก็ถือกำเนิดขึ้นทีละตัว ซึ่งเป็นการวางรากฐานสำหรับการประมวลผลเครือข่ายแบบ P2P
ในปี 2008 Satoshi Nakamoto ได้ตีพิมพ์บทความชื่อดัง Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของ Bitcoin/Blockchain
Satoshi Nakamoto ขุดบล็อกการกำเนิดด้วยซอฟต์แวร์เวอร์ชันแรกของเขาในเดือนมกราคม 2552 มีประโยคว่า: The Times 03/Jan/2009 Chancellor on brink of second bailout forbanks. เหมือนต้องมนต์สะกด เปิดยุคของ blockchain/Bitcoin
ชื่อเรื่องรอง
ตั้งแต่ปี 2008 ถึง 2013 ยุค blockchain 1.0
ในเดือนกันยายน 2010 Slush ซึ่งเป็นฟาร์มขุดแห่งแรกได้คิดค้นวิธีการขุดร่วมกันของหลาย ๆ โหนด ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมการขุด bitcoin
ในเดือนเมษายน 2011 Bitcoin เวอร์ชันแรกอย่างเป็นทางการ (https://bitcoin.org/en/version-history) ได้รับการบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ (https://bitcoin.org/en/version-history) เวอร์ชันหลักนี้รองรับ uPNP ซึ่งตระหนักถึงการใช้งานประจำวันของเรา ความสามารถของซอฟต์แวร์ P2P, Bitcoin ที่มีความสามารถ P2P
ในปี 2013 Bitcoin เปิดตัวเวอร์ชัน 0.8 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Bitcoin โดยได้ปรับปรุงการจัดการภายในของโหนด Bitcoin และเพิ่มประสิทธิภาพของการสื่อสารผ่านเครือข่าย จนถึงตอนนี้ Bitcoin ได้สนับสนุนการทำธุรกรรมขนาดใหญ่บนเครือข่ายทั้งหมดอย่างแท้จริง กลายเป็นเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ที่ Satoshi Nakamoto คิดขึ้น และมีอิทธิพลระดับโลกอย่างแท้จริง
ชื่อเรื่องรอง
ปลายปี 2013 - 2018, ยุค blockchain 2.0, Ethereum, สัญญาอัจฉริยะ, การเคลื่อนไหวของโอเพ่นซอร์ส, Hackathon, DaraHacks
วี พระเจ้า"วี พระเจ้า"คำอธิบายภาพ
ณ เดือนมิถุนายน 2564 Ethereum เป็นเครือข่ายระบบนิเวศโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่ใหญ่และใหญ่ที่สุด โดยมีทั้งหมด 5,900 โหนดและบัญชีที่อยู่ 56 ล้านบัญชี โหนดตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา เยอรมนี จีน ฝรั่งเศส และสิงคโปร์
คำอธิบายภาพ
คำอธิบายสั้น ๆ ของสัญญาอัจฉริยะ
ในปี 2014 DoraHack ถือกำเนิดและนำ Hackathon มาสู่ประเทศจีน แฮกกาธอนซึ่งเป็นการแสดงออกอย่างเฉพาะเจาะจงของขบวนการโอเพ่นซอร์สทั่วโลก เริ่มแรกส่วนใหญ่ดำเนินการในวงเล็กๆ ที่แน่นอนภายในมหาวิทยาลัย บริษัทเทคโนโลยี และสถาบันวิจัยที่มีชื่อเสียง Hackathon จัดและริเริ่มโดย DoraHacks ในปี 2014 เพื่อตอบสนองความต้องการของ geeks ในประเทศที่ต้องการสื่อสารระหว่างกันอย่างเร่งด่วนในช่วงที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ (บล็อกเชน) พัฒนาอย่างรวดเร็ว นวัตกรรมใหม่ ๆ มักจะต้องใช้คนกลุ่มหนึ่งในการระดมสมองและปะทะกัน
DoraHacks เป็นภาชนะที่ดีสำหรับประกายไฟของการปะทะกันทางความคิดเหล่านี้ ไม่เพียงแค่นั้น แต่ยังช่วยให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมเกินบรรยายและโลกของบล็อกเชนให้เข้าร่วม และส่งเสริมการพัฒนาของบล็อกเชน
DoraHacks ในช่วงแรกเป็นเพียงชุมชนแฮ็กเกอร์ ในเดือนพฤศจิกายน 2014 เราได้จัด Hackathon ของเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายในมหาวิทยาลัย Tsinghua เนื่องจาก Hackathon เป็นกิจกรรมมาตรฐานในชุมชน geek เช่น Tsinghua Thacks, Peking University Hackathon, The Beihang Hackathon DoraHacks เป็นผู้ดำเนินการ Handover Hackathon และ Hackathon ของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง”
—DoraHacks Founder Eric Zhang
ในปี 2560 DoraHacks จัดงาน Hackathon ครั้งแรกในธีม FinHACK ในประเทศจีน ซึ่งเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของอุตสาหกรรมบล็อกเชน/สกุลเงินดิจิทัลสู่สาธารณะชนชาวจีน
ในปี 2018 DoraHacks ได้พัฒนาเป็นผู้จัดงาน Hackathon ระดับโลก มีการจัด Hackathon ในเกือบ 20 เมืองใน 8 ประเทศทั่วโลก และนักพัฒนาในชุมชนครอบคลุมหลายสิบประเทศ
ชื่อเรื่องรอง
2019 — ~ Blockchain 3.0: การดำเนินการแบบกระจาย, สัญญาอัจฉริยะที่ซับซ้อน, การสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบหลายเชน/ครอสเชน, HackerLink, โรงงาน Dora, กลไกการจัดหาเงินทุนกำลังสอง, MACI...
ในปี 2019 อุตสาหกรรมการเข้ารหัสได้เข้าสู่ช่วงเวลาวิกฤตของการสลับขั้วและตลาดค่อย ๆ กลับมาจากความคลั่งไคล้และความตื่นเต้นเป็นความรอบคอบและการปฏิบัติจริง ล้างฟองสบู่ออกไป ในปีเดียวกัน DoraHacks จัดงาน Thousand People Hackathon of the Fourth Industrial Revolution ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
คำอธิบายภาพ
ด้วยการสนับสนุนของกลุ่ม DoraHacks global geek ทำให้ HackerLink ให้บริการบริษัทหลายร้อยแห่งทั่วโลกภายในเวลาเพียงสามเดือนหลังจากเปิดตัว โดยมีคำสั่งซื้อมากกว่า 15 ล้านรายการ ตระหนักถึงการเคลื่อนไหวทวนกระแสและการเติบโตอย่างรวดเร็ว
ในปี 2563-2564 หนึ่งในประเด็นหลักที่เทคโนโลยีบล็อกเชนต้องเผชิญคือความสามารถในการปรับขนาด Bitcoin ยังคงประสบปัญหาจากเวลาประมวลผลธุรกรรมและปัญหาคอขวด สกุลเงินดิจิทัลใหม่ ๆ จำนวนมากได้พยายามปรับเปลี่ยนบล็อกเชนเพื่อรองรับปัญหาเหล่านี้ โดยประสบความสำเร็จแตกต่างกันไป Ploygan, Solana, Filecoin, BNB, opensea, ETH, BOBA, Moonrive, Avalanche และระบบนิเวศห่วงโซ่สาธารณะอื่นๆ, ระบบนิเวศน์ใหม่, L2...ตราบใดที่คุณให้เงินทุนสำหรับโครงการนักพัฒนาโอเพ่นซอร์ส เป็นช่วงเริ่มต้นของแต่ละนิเวศวิทยาที่รวบรวมโครงการ
DoraHacks นำเสนอช่องทางการเปิดเผยคุณภาพสูงแก่โครงการเหล่านี้และวิธีเชื่อมต่อกับตลาดอย่างรวดเร็ว BUIDLers จำนวนมากทำให้ผู้คนรู้จักตัวเองมากขึ้นผ่าน DoraHacks ในปี 2564 เพียงปีเดียว แพลตฟอร์มแอปพลิเคชันระบบนิเวศ Web3 กระแสหลักมากกว่า 30 แพลตฟอร์มได้จัดงาน Hackathons บน DoraHacks.io และออก Grants และมีโครงการโอเพ่นซอร์ส geek ระยะเริ่มต้นใหม่รวมกว่า 2,000 โครงการ
ในเดือนมีนาคม 2021 Dora Factory ซึ่งบ่มเพาะโดย DoraHacks ได้ถือกำเนิดขึ้น Dora Factory เป็นโครงสร้างพื้นฐานการกำกับดูแลแบบกระจายอำนาจแบบ DAO-as-a-Service แบบหลายเชน (DAO-as-a-Service)
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 Hackathon แบบออฟไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของระบบนิเวศ Ethereum ในสหรัฐอเมริกา ETHDenver 22 ใช้ DoraHacks.io เป็นแพลตฟอร์มโครงการแฮ็กกาธอน ดึงดูดการมีส่วนร่วมของโครงการเริ่มต้นของระบบนิเวศ Ethereum 171 โครงการจากทั่วโลก
พันธมิตรของ DoraHacks ในปัจจุบันมีอยู่ทั่วโลก ในอุตสาหกรรมบล็อกเชน ระบบนิเวศที่สำคัญตั้งแต่ ETH ถึง Polkadot กำลังบ่มเพาะโครงการผ่านงาน Hackathon ของ DoraHacks
“เพื่อยกตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ผู้สร้างโลกเข้ารหัสจำนวนมากได้เข้าร่วมในกิจกรรมของ DoraHacks เร็วมาก ตัวอย่างเช่น Matic ในชุมชนอินเดีย Matic จดทะเบียนใน Binance ในปี 2019 และควรเป็นโครงการแรกใน IE0 ทั้งหมดของ Binance ตลาด แต่จริง ๆ แล้ว Matic เข้าร่วมแฮ็กกาธอนที่จัดโดย DoraHacks ในเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ในฤดูร้อนปี 2018 และแน่นอนว่าพวกเขายังอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างเร็วในตอนนั้น”
— ตัดตอนมาจากบทสัมภาษณ์พิเศษกับชุมชน Binance Smart Chain โดยผู้ก่อตั้ง DoraHacks Zhang Jiannan เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2021
จากข้อมูลสาธารณะ ณ ต้นปี 2565 โครงการคุณภาพสูงในช่วงต้นหลายโครงการที่เกิดขึ้นจากชุมชน DoraHacks ได้แก่:
Functionland、Manta、ETHSign、deBridge、Strips Finance、Yin Finance、Solend、1SOL、StepN、Raydius、Zecrey、Taker Protocol、Izumi、ZKLink、Pawnfi、InsurAce
(บทความนี้คัดกรองชื่อโครงการตัวแทน 21 ชื่อและแนบลิงก์)
โครงการแรก ๆ เหล่านี้ที่ DoraHacks บ่มเพาะเกี่ยวข้องกับสถาบันการลงทุน ได้แก่ Mask Network, Incuba Alpha, SevenX Ventures, Hash Global Capital, Metaverse Capital, Zonff Partners, NGC Ventures, Puzzle Ventures เป็นต้น
นอกจากนี้ DoraHacks ยังมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมในด้านนวัตกรรมของโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน
ในเดือนมีนาคม 2021 Dora Factory ซึ่งพัฒนาโดย DoraHacks เป็นโครงสร้างพื้นฐาน DAO-as-a-Service แบบหลายสายโซ่ (DAO-as-a-Service) ผลิตภัณฑ์มีข้อมูลผู้ใช้จริงและชุมชนมีส่วนร่วมระดับสูง ฐานผู้ใช้ เงินทุนชุมชนเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาโรงงานดอร่า กลไกการจัดหาเงินทุนแบบสี่เหลี่ยม ที่ก่อตั้งโดย Dora Factory เป็นกลไกการระดมทุนที่ยั่งยืน ซึ่งช่วยให้ชุมชน Dora ให้การสนับสนุนแนวคิด/โครงการต่อไป และในที่สุดก็ตระหนักถึงกลไกการทำงานอัตโนมัติผ่าน HackerLink
ก่อนที่จะมีการจัดหาเงินทุนกำลังสองที่ก่อตั้งโดย Dora Factory อุตสาหกรรมมักประสบปัญหาการออกแบบกลไกสี่ประการ
การโจมตีซีบิล: เป็นภัยคุกคามระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายออนไลน์ที่อ้างถึงความพยายามของแต่ละคนในการควบคุมเครือข่ายโดยการสร้างข้อมูลประจำตัวของบัญชีหลายบัญชี หลายโหนดหรือพิกัดคอมพิวเตอร์ เป็นหลักการเดียวกับการสร้างบัญชีโซเชียลมีเดียส่วนตัวหลายบัญชี (คำว่า ซีบิล มาจากกรณีของผู้หญิงชื่อซีบิล ดอร์เซตต์ ซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคหลายบุคลิก)
การสมรู้ร่วมคิด: การสมรู้ร่วมคิดเป็นข้อตกลงที่ไม่เกี่ยวกับการแข่งขัน เป็นความลับ และบางครั้งผิดกฎหมายระหว่างคู่แข่งในความพยายามที่จะทำลายความสงบเรียบร้อยของตลาด
การฉ้อโกง
ไม่ยุติธรรม
การจัดหาเงินทุนกำลังสองของ Dora Factory มอบแนวทางแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกันข้างต้น
วิธีแก้ปัญหา Sybil Attack: วิธีแก้ปัญหาของ Dora ต่อ Sybil Attack: ใช้ DoraID เพื่อต่อต้าน Sybil Staking ในโปรโตคอล V2 ของเงินทุนกำลังสอง DoraID ถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อตรวจสอบตัวตนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามการปักหลัก (ในกรณีนี้ เราเรียกว่าการต่อต้านการปักหลักแบบซีบิล) DoraID เป็นกรอบทั่วไปสำหรับการเดิมพัน อนุญาตให้ผู้ใช้ถือโทเค็น DORA ใน จำนวนและเวลาที่กำหนด เดิมทีเสนอโดยนักพัฒนา Dora Factory เมื่อปลายเดือนมีนาคมและตอนนี้ปรับใช้บน Ethereum และ BSC
ในการระดมทุนกำลังสองก่อนหน้านี้ การวิเคราะห์หลังรอบมีบทบาทสำคัญในการปรับผลลัพธ์สุดท้ายและรักษาความเป็นธรรม เมื่อใช้ DoraID ภาระงานของการวิเคราะห์หลังรอบจะลดลงอย่างมาก หลักการของคำมั่นสัญญาต่อต้านซีบิลไม่ใช่เพื่อตรวจสอบความชอบธรรมของการลงคะแนนเสียงแต่ละครั้งเหมือนโซลูชันแบบรวมศูนย์ แต่เพื่อเพิ่มต้นทุนการโจมตีซีบิลอย่างมากผ่านน้ำหนักการลงคะแนนเสียงจำนวนมาก ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ นั่นคือค่าใช้จ่ายในการโจมตีของซีบิลนั้นมีมากกว่าผลประโยชน์ของมันมาก
วิธีแก้ปัญหา การสมรู้ร่วมคิด: เปลี่ยนกระบวนการลงคะแนนให้เป็นเกมที่ไม่ให้ความร่วมมือ วิธีแก้ไขเบื้องต้นคือ MACI ก่อนอื่นเราทุกคนลงคะแนนผ่านผู้ดูแลระบบ จากนั้นผู้ดูแลระบบจะออกคีย์สาธารณะให้กับทั้งตลาด ผู้ดูแลระบบคีย์ส่วนตัวจะถูกเก็บไว้โดยผู้ดูแลระบบ และข้อมูลทั้งหมดจะถูกเข้ารหัสโดยคีย์สาธารณะ ดังนั้นคุณจึงสามารถเห็นเฉพาะข้อความเข้ารหัสของข้อมูลของทุกคน แต่ไม่สามารถเห็นข้อความธรรมดาได้ พูดง่ายๆ ก็คือ ทุกคนเข้ารหัสการลงคะแนนของตน และผู้ดูแลระบบจะเผยแพร่ผลลัพธ์ จากนั้นจึงใช้การพิสูจน์ที่ไม่มีความรู้เพื่อพิสูจน์ว่าผลลัพธ์นั้นเป็นจริงโดยไม่ต้องเผยแพร่รายละเอียดและกระบวนการใดๆ
ผู้ดูแลระบบเป็นโหนดส่วนกลาง แต่ขอบเขตที่โหนดนี้สามารถทำสิ่งชั่วร้ายได้นั้นมีจำกัด ประการแรก ผู้ดูแลระบบไม่สามารถเผยแพร่ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งรับประกันได้ด้วยการพิสูจน์ที่ไม่มีความรู้ แต่ผู้ดูแลระบบสามารถทำสิ่งที่ไม่ดีอื่นๆ ได้ เช่น ผัดวันประกันพรุ่ง ไม่เผยแพร่ผลงาน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเป็นการส่วนตัว
โซลูชันสำหรับ การป้องกันการฉ้อโกง: เพิ่มฟังก์ชันการป้องกันการฉ้อโกงผ่านการควบคุมการจัดการสัญญาอัจฉริยะบางระดับและการตรวจสอบส่วนหน้า HackerLink ได้ใช้กลไกการตรวจสอบเพื่อตรวจสอบตัวตนของโครงการ ประการแรก มีคุณลักษณะสองประการที่ช่วยให้เจ้าของโครงการยืนยันความเป็นเจ้าของ GitHub และ Twitter ได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ลบโครงการที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นการฉ้อโกง และเงินที่ตรงกันจะถูกคำนวณใหม่โดยอัตโนมัติและแจกจ่ายให้กับสมาชิกคนอื่นๆ ในชุมชน
ทางออกของ ความไม่ยุติธรรม: กลไกภาษีอัตราก้าวหน้าที่ได้รับทุนสนับสนุนกำลังสองได้รับการออกแบบและจำลองขึ้น อัลกอริทึมจะจัดสรรภาษีหลังจากการเรียกใช้ฟังก์ชัน vote() แต่ละครั้ง ในโปรโตคอล V2 ของเงินทุนกำลังสอง เรารวมฟังก์ชันภาษีแบบก้าวหน้าเข้ากับกระบวนการลงคะแนนเสียง
โครงสร้างพื้นฐานป้องกันการชนกันน้อยที่สุด MACI (โครงสร้างพื้นฐานป้องกันการชนกันน้อยที่สุด)มันเป็นหนึ่งในโมดูลหลักของโรงงาน Dora Factory Ethereum ด้วยการเข้ารหัสการลงคะแนนและการพิสูจน์ผลลัพธ์ที่ไม่มีความรู้ทำให้ตระหนักถึงการลงคะแนนส่วนตัวและเปลี่ยนกระบวนการลงคะแนนของการกำกับดูแลแบบ on-chain และ off-chain เป็นแบบ non- เกมความร่วมมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการต่อต้านการสมรู้ร่วมคิด ปัญหาการต่อต้านการสมรู้ร่วมคิดคือจอกศักดิ์สิทธิ์ของเทคโนโลยีการกำกับดูแลแบบออนไลน์ และการแก้ปัญหาการต่อต้านการสมรู้ร่วมคิดเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการกำกับดูแลแบบออนไลน์ในการขยายขนาด
แนวคิดเฟรมเวิร์กของ MACI เสนอโดย Vitalik Buterin และทีม Applied ZKP ดั้งเดิมได้นำไลบรารี่รหัสโอเพ่นซอร์สพื้นฐานมาใช้ DoraHacks ปรับปรุงปัญหาด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพในรหัส MACI อย่างเป็นระบบ ในการประชุม ETH Denver เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ปีนี้ DoraHacks ได้เปิดตัวรอบการระดมทุนแบบ Quadratic ขนาดกลางของ MACI เป็นครั้งแรก นักพัฒนามากกว่า 2,000 คนและผู้เข้าร่วม 10,000 คนจะทำการลงคะแนนแบบ Quadratic ที่ไม่มีความรู้ผ่านแพลตฟอร์ม DoraHacks นี่เป็นแอปพลิเคชันขนาดกลางตัวแรก ของ MACI และการลงคะแนนความเป็นส่วนตัวแบบออนไลน์
ชื่อระดับแรก
5. รายการเค้าโครงในอนาคตและการพัฒนาของ Dorahacks: การเคลื่อนไหวแบบหลายสายโซ่ใหม่และการขยายตัวของ Non-crypto
เช่นเดียวกับที่ DoraHacks เชื่อมโยงโปรเจ็กต์ยุคแรกเข้ากับสิ่งที่เกินบรรยายในวิถีแห่งการเชื่อมต่อ DoraHacks ได้รวม วัฒนธรรมเกินบรรยาย การเคลื่อนไหวของโอเพ่นซอร์ส ดิสทริคบล็อกเชน Web3 ผ่านการมีส่วนร่วมของตนเองในช่วงแปดปีแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรม , และ Hackathon มีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด
Geeks เชื่อมโยงกับความล้ำสมัยเสมอ ในฐานะองค์กร geek ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในชุมชนนักพัฒนา Web3 หลายเชนที่มีการใช้งานมากที่สุด DoraHacks ได้สำรวจอย่างต่อเนื่องในสาขาชายแดน จากการสังเกต การวิจัย และการวิเคราะห์กระบวนการพัฒนาของ DoraHacks ไม่เพียงสำหรับผู้เข้าร่วมในอุตสาหกรรมเท่านั้น มีแรงบันดาลใจมากขึ้นและมีความคิดมากขึ้น และต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อดูเค้าโครงการพัฒนาในอนาคตของ DoraHacks
ในบรรดาเงื่อนงำต่างๆ ที่ถูกจับได้ เราพบเงื่อนงำที่ชัดเจนหลายประการเกี่ยวกับการพัฒนา DoraHacks ในอนาคต
ประการแรก นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องของโครงสร้างพื้นฐาน การเคลื่อนไหวของแฮ็กเกอร์ที่ไม่มีวันจบสิ้น และ ชุมชนนักพัฒนา Web3 หลายสายโซ่ ไม่ควรเป็นเพียงลิงก์และแกรนต์ จากการประยุกต์ใช้ชุดโครงสร้างพื้นฐานบนแพลตฟอร์ม DoraHacks เราจะเห็นว่า DoraHacks กำลังปรับปรุงประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมผ่านนวัตกรรมในระดับมหภาคและระดับจุลภาคที่แตกต่างกัน เช่น กลไกการลงคะแนน กลไกการระดมทุน ข้อตกลงจูงใจ เป็นต้น
ประการที่สอง การมีส่วนร่วมของชุมชนที่กว้างขึ้น ในฐานะองค์กร geek ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผู้ใช้ส่วนใหญ่รู้จัก DoraHacks และได้รับการแก้ไขในชุมชน Web3 ตัวอย่างเช่น จากการสังเกตของเรา DoraHacks พบในแทร็ก Space bulid 2022EthDenver และกรณีพิเศษบางกรณีของการระดมทุนหลายโครงการที่ไม่ใช่ Crypto การพัฒนา DoraHacks ในอนาคตจะขยายไปสู่โลกที่กว้างขึ้นอย่างแน่นอน จัดระเบียบและให้บริการแฮ็กเกอร์มากขึ้น
สุดท้ายนี้ DoraHacks จะให้ความสำคัญกับความต้องการของแฮ็กเกอร์ แฮกเกอร์คือกลุ่มคนที่แก้ปัญหาที่แท้จริง คำถามนั้นมีค่าจริง DoraHacks จะมุ่งเน้นไปที่แฮ็กเกอร์เสมอ ให้ความสนใจกับแนวคิดของแฮ็กเกอร์ และทำให้แฮ็กเกอร์จำนวนมากขึ้นทำในสิ่งที่พวกเขาชอบทำโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอด สำหรับคำจำกัดความของ Hacker จะต้องไม่จำกัดเฉพาะผู้พัฒนาโอเพ่นซอร์ส
ระบบนิเวศน์ของ Web3 มีความสมบูรณ์และมีสีสัน มีความหลากหลายทางเทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน วัฒนธรรมชุมชน ฯลฯ ลัทธิเสรีนิยมแบบอนุรักษ์นิยมของชุมชน Bitcoin ลัทธิเสรีนิยมใหม่ของชุมชน Ethereum และการประยุกต์ใช้นวัตกรรม GameFi จากล่างขึ้นบนของระบบนิเวศ BSC โดยไม่คำนึงถึงด้านเทคนิคหรือวัฒนธรรม Dorahacks จะสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศแบบหลายห่วงโซ่ในหลายๆ ด้าน
เรามีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าDoraHacks ซึ่งอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม มุ่งมั่นที่จะสร้างการเคลื่อนไหวแบบมัลติเชนและการขยายตัวที่ไม่ใช่คริปโตใหม่ในอนาคต
