DeSci หรือ Decentralized Science มอบแพลตฟอร์มที่ยุติธรรม โปร่งใส และกระจายอำนาจผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะสำหรับการระดมทุน การสร้าง การทบทวน การยืนยัน การจัดเก็บ และการเผยแพร่การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เป้าหมายของบริษัทคือการทำลายอุปสรรคด้านเงินทุนในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิม ส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก และรับประกันความเปิดกว้างและความโปร่งใสของข้อมูลการวิจัย
วิทยาศาสตร์การกระจายอำนาจ (DeSci) คืออะไร?
Decentralized Science (DeSci) เป็นขบวนการเชิงนวัตกรรมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิม ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Web3 DeSci มุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ยุติธรรม โปร่งใส เปิดกว้าง และขับเคลื่อนด้วยการทำงานร่วมกันมากขึ้น แก่นแท้ของแนวคิดนี้คือการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่กระจายอำนาจเพื่อกำหนดนิยามใหม่ของการระดมทุนสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การแบ่งปันความรู้ และการเผยแพร่ผลการเรียน
สาระสำคัญของ DeSci คือการแก้ปัญหาต่างๆ ที่วิทยาศาสตร์ดั้งเดิม (TradSci) เผชิญอยู่ แทนที่จะสนับสนุนแนวคิด วิทยาศาสตร์แบบเปิด เท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับขบวนการวิทยาศาสตร์แบบเปิด DeSci ให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการสร้างความสัมพันธ์ทางนิเวศน์การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ขึ้นใหม่ โดยเน้นการใช้ฟังก์ชันบล็อกเชน เช่น โทเค็น NFT และองค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ (DAO) เพื่อทำลายโมเดลการผูกขาดแบบรวมศูนย์ และสร้าง A ระบบการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบไดนามิกและครอบคลุมมากขึ้น
ปัจจุบันเป้าหมายของ DeSci มุ่งเน้นไปที่ประเด็นต่อไปนี้:
การสร้างกลไกสิ่งจูงใจ: มอบสิ่งจูงใจให้นักวิจัยแบ่งปันผลงานวิจัยและรับรู้คุณค่าทางวิชาการผ่านระบบชื่อเสียง
การตรวจสอบแบบกระจายอำนาจและการให้ทุน: ทำลายการผูกขาดของสถาบันแบบรวมศูนย์แบบดั้งเดิมในการจัดสรรทุนวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการทบทวนผลลัพธ์ และใช้แนวทางที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนเพื่อจัดสรรทรัพยากรเพื่อให้โครงการที่มีคุณค่ามากขึ้นสามารถรับการสนับสนุนได้
ลดเกณฑ์การวิจัยทางวิทยาศาสตร์: ช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มีส่วนร่วมในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และส่งเสริมการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ให้เป็นประชาธิปไตย
กระบวนการวิจัยที่โปร่งใส: รับรองความเปิดกว้างและความโปร่งใสในทุกด้านของการวิจัย และเพิ่มความซื่อสัตย์ทางวิชาการและความไว้วางใจ
ด้วยวิธีการที่เป็นนวัตกรรมใหม่เหล่านี้ DeSci พยายามที่จะทำลายความไม่สมดุลระหว่างการไหลของข้อมูลและการจัดสรรทรัพยากรในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิม และทำให้การวิจัยทางวิทยาศาสตร์เปิดกว้างและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เพียงแต่มอบเครื่องมือและแพลตฟอร์มใหม่สำหรับนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังสร้างโอกาสให้ชุมชนทั่วโลกมีส่วนร่วมในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย
โดยพื้นฐานแล้ว DeSci ส่งเสริมแนวคิดที่ว่าวิทยาศาสตร์ควรสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน และความรู้ทางวิทยาศาสตร์ควรเปิดกว้างและโปร่งใส การเคลื่อนไหวนี้ใช้ประโยชน์จากพลังของเทคโนโลยี Web3 เพื่อผลักดันวิทยาศาสตร์จากโมเดลรวมศูนย์แบบดั้งเดิมไปสู่ยุคใหม่ของการเปิดกว้าง การทำงานร่วมกัน และขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
DeSci แก้ปัญหาความเจ็บปวดของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิมได้อย่างไร
รูปแบบเศรษฐศาสตร์การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันมีข้อบกพร่องทางโครงสร้างที่ชัดเจน ตามทฤษฎี ผู้ให้ทุน นักวิทยาศาสตร์ และผู้จัดพิมพ์ควรทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาการดำเนินงาน การเผยแพร่ และการประยุกต์ใช้การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงยังห่างไกลจากสิ่งนี้ - ผู้ให้ทุนจัดสรรเงินทุน นักวิทยาศาสตร์ดำเนินการวิจัย และผู้จัดพิมพ์เผยแพร่ผลลัพธ์ การเชื่อมโยงหลักทั้งสามนี้แยกออกจากกัน เป้าหมายโดยรวมของชุมชน สถานการณ์นี้นำไปสู่การจัดสรรทรัพยากรที่ไม่มีประสิทธิภาพและเป็นอุปสรรคต่อการแบ่งปันผลลัพธ์ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ดี
แบบจำลองเศรษฐศาสตร์การวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิม ภาพจาก: Messari Research
DeSci เกิดมาเพื่อแก้ไขภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายเกาะแห่งความสนใจและจุดคอขวดด้านประสิทธิภาพในวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิม และปรับโฉมระบบนิเวศการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ด้วยการแนะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Web3 DeSci กำหนดเป้าหมายปัญหาหลักประการหนึ่งของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิม นั่นคือ หุบเขาแห่งความตาย แนวคิดนี้อ้างถึงช่องว่างที่สำคัญระหว่างการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานและความสำเร็จในการแปลเป็นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ในรูปแบบดั้งเดิม เนื่องจากการสนับสนุนทางการเงินไม่เพียงพอ ข้อมูลแบบปิด และประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันต่ำ การศึกษาที่มีแนวโน้มดีจำนวนมากจึงล้มเหลวในขั้นตอนนี้และล้มเหลวในการบรรลุคุณประโยชน์ที่แท้จริงต่อสังคม
DeSci เชื่อมช่องว่างเหล่านี้ด้วยแนวทางที่เป็นนวัตกรรม เช่น:
กลไกการจัดสรรกองทุนที่มีประสิทธิภาพ: ใช้องค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ (DAO) และแบบจำลองทางเศรษฐกิจแบบโทเค็นเพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพสำหรับโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองทรัพยากร
การแบ่งปันข้อมูลและการทำงานร่วมกัน: สร้างแพลตฟอร์มข้อมูลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบเปิดเพื่อให้การรับและการใช้ข้อมูลการวิจัยสะดวกยิ่งขึ้น ทำลายไซโลข้อมูล และส่งเสริมการทำงานร่วมกันข้ามสาขา
รูปแบบการเผยแพร่ที่พลิกผัน: ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อกระจายอำนาจกระบวนการเผยแพร่ทางวิชาการ รับรองความโปร่งใสและตรวจสอบได้ของผลลัพธ์ ในขณะที่ลดต้นทุนการเผยแพร่ และลดอิทธิพลการผูกขาดของผู้จัดพิมพ์แบบดั้งเดิม
ลดระยะห่างระหว่างการวิจัยขั้นพื้นฐานและการประยุกต์ใช้: ด้วยการแนะนำโมเดลความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน เราสามารถเร่งการเปลี่ยนแปลงผลการวิจัย และเพิ่มอัตราการสนับสนุนที่แท้จริงของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์สู่สังคม
โดยทั่วไป DeSci ไม่เพียงแต่ซ่อมแซมข้อบกพร่องของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังสร้างกระบวนทัศน์การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ใหม่อีกด้วย ในแบบจำลองนี้ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดจะไม่แยกออกจากกันอีกต่อไป แต่บรรลุความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นผ่านวิธีการทางเทคนิคเพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เปิดกว้าง โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้ให้แนวคิดใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาปัญหาการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และเปิดโอกาสที่เป็นไปได้มากขึ้นสำหรับอนาคตของวิทยาศาสตร์
เส้นทาง DeSci พัฒนาไปอย่างไร?
ทิศทางการพัฒนาของ DeSci ครอบคลุมเส้นทางนวัตกรรมหลายมิติในฐานะแนวทางใหม่ จากการวิเคราะห์ของ Messari Research ระบบนิเวศของโครงการ DeSci ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็นหลายแผนก รวมถึงการเงิน การวิจัย การจัดการข้อมูล การทบทวนโดยผู้ทรงคุณวุฒิ การตีพิมพ์ โครงสร้างพื้นฐานและบริการ ระบบนิเวศวิทยาศาสตร์แบบเปิด ศิลปะ และการสร้างชุมชน ณ เดือนกรกฎาคม 2023 จำนวนโครงการ DeSci ที่ใช้งานอยู่มีจำนวนถึง 85 โครงการ และบางโครงการยังครอบคลุมหลายส่วนในเวลาเดียวกัน การเพิ่มขึ้นของโครงการเหล่านี้กระจุกตัวอยู่ระหว่างไตรมาสที่สี่ของปี 2021 ถึงไตรมาสแรกของปี 2022 ซึ่งเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการประชุมสัมมนา DeSci ที่จัดขึ้นที่ LisCon ในเดือนตุลาคม 2021 นอกจากนี้ ความบ้าคลั่งของตลาดการเข้ารหัสในขณะนั้นยังให้การสนับสนุนการพัฒนาอย่างรวดเร็วของ DeSci อีกด้วย
เส้นทาง DeSci ในปัจจุบันแสดงคุณลักษณะที่สำคัญสามประการ: ประการแรก โครงการส่วนใหญ่ใช้ DAO เป็นรูปแบบองค์กรเพื่อให้บรรลุการขับเคลื่อนของชุมชนและการจัดสรรทรัพยากรผ่านองค์กรอิสระที่มีการกระจายอำนาจ ประการที่สอง ปัญหาทางการเงินเป็นจุดสนใจหลักของโครงการ DeSci โดยใช้เครื่องมือสินทรัพย์ดิจิทัลของ Web3 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทุนสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ในที่สุด เทคโนโลยีชีวภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านชีวิต สุขภาพ และการมีอายุยืนยาว ถือเป็นสถานการณ์หลักของการใช้งาน DeSci ไม่ว่าจะเป็นการให้ทุนสนับสนุนการวิจัยขั้นพื้นฐานหรือปัญหา หุบเขาแห่งความตาย ในการพัฒนายา DeSci มอบโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรม
ประสิทธิภาพมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของโครงการ DeSci เป็นเท่าใด
ในด้านผลการดำเนินงานของตลาดทุน โครงการ DeSci ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น จากข้อมูลจาก CoinGecko มูลค่าตลาดรวมของโทเค็นในพื้นที่ DeSci มีมูลค่าเกินกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับแทร็ก Web3 อื่น ๆ มูลค่าตลาดโดยรวมของโครงการ DeSci โดยทั่วไปจะต่ำกว่า ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากปัจจัยต่อไปนี้:
DeSci ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการสำรวจโดยมีจำนวนโครงการที่จำกัด
โทเค็นจำนวนมากได้รับการออกแบบมามากขึ้นสำหรับการจัดหาเงินทุนโครงการและการลงทุนซ้ำ และขอบเขตการหมุนเวียนนั้นมีจำกัด ดังนั้นจึงไม่ค่อยเข้าสู่ตลาดรอง
กลุ่มเป้าหมายของ DeSci ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม และการผสมผสานระหว่างการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และ Web3 สามารถดึงดูดผู้ชมที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นในสาขาวิชาชีพ
การเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับโลกแห่งความเป็นจริงทำให้ DeSci มุ่งเน้นไปที่การใช้งานจริงมากกว่าการเก็งกำไรทางการเงินเพียงอย่างเดียว ซึ่งจำกัดพื้นที่การเก็งกำไรในตลาดของโทเค็น
ในปัจจุบัน แม้ว่ามูลค่าตลาดรวมของโครงการ DeSci จะไม่สร้างผลกระทบในขนาด แต่อิทธิพลของโครงการก็ค่อยๆ ขยายออกไป โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่มุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการแก้ปัญหาแบบเดิมๆ ในอนาคต เมื่อมีการดำเนินโครงการต่างๆ มากขึ้นและผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้รับการเปลี่ยนแปลง ประสิทธิภาพของ DeSci ในตลาดทุนก็คาดว่าจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะนำศักยภาพในการพัฒนาที่มากขึ้นมาสู่การบูรณาการวิทยาศาสตร์และ Web3
โครงการที่เป็นตัวแทนในเส้นทาง DeSci คืออะไร?
โมเลกุล
Molecule ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 เป็นโปรโตคอลแบบกระจายอำนาจที่มุ่งทำลายโมเดลการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพแบบดั้งเดิม โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศทางการเงินใหม่สำหรับการวิจัยทางชีววิทยาในระยะเริ่มแรก และแนะนำทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ในด้านเทคโนโลยีชีวภาพเข้าสู่ห่วงโซ่ด้วยวิธีการที่เป็นนวัตกรรม โดยเป็นผู้บุกเบิกแนวคิด IP-NFT และเป็นที่รู้จักในชื่อ OpenSea ในสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ .
เทคโนโลยีหลัก: โปรโตคอล IP-NFT
โปรโตคอล IP-NFT (Intellectual Property Non-Fungible Token) ของ Molecule เป็นเครื่องมือใหม่ที่ผสมผสานกฎหมายและสัญญาอัจฉริยะ ซึ่งสามารถรวมและสร้างโทเค็นสิทธิ์ทางกฎหมาย สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล และมูลค่าทางเศรษฐกิจของโครงการวิจัยทางชีววิทยาในห่วงโซ่ กลไกนี้เป็นรูปแบบความร่วมมือใหม่สำหรับนักวิจัยและผู้ให้ทุน ทำให้การเป็นเจ้าของและการกระจายรายได้ของทรัพย์สินทางปัญญามีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตลาดโมเลกุล: การเชื่อมโยงการวิจัยและทุน
Molecule ได้สร้างตลาดสำหรับการวิจัยเชิงแปลโดยใช้ IP-NFT โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพระหว่างนักวิจัยและผู้ให้ทุน บนแพลตฟอร์ม Molecule Discovery นักวิจัยสามารถส่งข้อเสนอการวิจัยได้ และผู้ให้ทุนสามารถประเมินข้อเสนอและเจรจาเงื่อนไขความร่วมมือกับทีมวิจัยได้ ด้วยวิธีนี้ Molecule จึงให้การสนับสนุนอย่างมากสำหรับการเปลี่ยนแปลงการวิจัยขั้นพื้นฐานไปสู่การใช้งานจริง และส่งเสริมการนำการวิจัยทางการแพทย์ไปปฏิบัติอย่างรวดเร็วตั้งแต่ภาคทฤษฎีไปจนถึงภาคปฏิบัติ
BioDAO Launchpad: บ่มเพาะ DAO เทคโนโลยีชีวภาพ
เพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบนิเวศเทคโนโลยีชีวภาพแบบกระจายอำนาจ Molecule ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มศูนย์บ่มเพาะ Bio.xyz แพลตฟอร์มนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างและบ่มเพาะ DAOs (BioDAOs) วิทยาศาสตร์ชีวภาพใหม่ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีการกระจายอำนาจโดยใช้ IP-NFT ที่รวบรวมผู้ป่วย นักวิจัย และผู้ที่ชื่นชอบมารวมตัวกันเพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับการวิจัยทางการแพทย์ในสาขาเฉพาะ
ศูนย์บ่มเพาะของ Molecule มอบเงินทุนสนับสนุนสูงสุดถึง 100,000 ดอลลาร์สำหรับโครงการ BioDAO ในระยะเริ่มแรกแต่ละโครงการ ซึ่งรวมถึงเรื่องราวความสำเร็จที่เป็นที่รู้จักมากมาย เช่น:
VitaDAO: เทคโนโลยีชีวภาพแบบกระจายอำนาจแห่งแรกของโลกที่มุ่งเน้นการวิจัยเรื่องอายุยืน และเป็นผู้ให้บริการกองทุนรายใหญ่ที่สุดบนแพลตฟอร์ม Molecule
AthenaDAO: มุ่งเน้นการวิจัยและให้ทุนด้านสุขภาพสตรี
HairDAO: การวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาผมร่วงโดยเฉพาะ
การสร้างระบบนิเวศและแนวโน้มในอนาคต
ด้วยโมเดล IP-NFT ที่เป็นนวัตกรรมและเครือข่ายการสนับสนุนทางนิเวศวิทยาที่แข็งแกร่ง Molecule ไม่เพียงแต่ช่วยให้นักวิจัยได้รับเงินทุนตั้งแต่เนิ่นๆ เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการเผยแพร่เทคโนโลยีชีวภาพแบบกระจายอำนาจให้แพร่หลายอีกด้วย จนถึงขณะนี้ Molecule ประสบความสำเร็จในการช่วยให้หลายโครงการเปลี่ยนจากการวิจัยขั้นพื้นฐานไปสู่การใช้งานจริง นอกจากนี้ ด้วยความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เช่น AthenaDAO และ VitaDAO ทำให้ Molecule กำลังสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีชีวภาพที่มีนวัตกรรมและความเปิดกว้างเป็นแกนหลัก
Tokenization และการเปลี่ยนแปลงของตลาด
ตลาด IP-NFT ของ Molecule ได้ดึงดูดสถาบันวิจัยและผู้ให้ทุนจำนวนมากให้เข้ามาตั้งถิ่นฐาน และประสบความสำเร็จในการไหลเวียนของเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบกระจายอำนาจ เช่น Uniswap วิสัยทัศน์ของ Molecule คือการขยายระบบนิเวศให้มากขึ้น ทำให้กระบวนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพมีความโปร่งใส เปิดกว้าง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมอบพลังสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีด้านสุขภาพระดับโลกในอนาคต
โมเลกุลและโปรโตคอล BIO เป็นหัวใจสำคัญของแนวทาง DeSci โดยมุ่งเน้นที่การส่งเสริมกระบวนการกระจายอำนาจของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ โครงการเหล่านี้ร่วมกันสร้างรากฐานทางนิเวศวิทยาของ DeSci ด้วยทิศทางนวัตกรรมและกลไกโทเค็นที่แตกต่างกัน:
VitaDAO ($VITA): VitaDAO เป็นองค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน (DAO) ซึ่งมุ่งเน้นการให้เงินทุนในระยะเริ่มต้นสำหรับการวิจัยเรื่องอายุยืนยาว VitaDAO เสนอวิธีแก้ปัญหาใหม่ล่าสุดสำหรับสถานการณ์ปัจจุบันของการขาดแคลนเงินทุนในระยะเริ่มต้นและการผูกขาดเทคโนโลยีในสาขาชีวเภสัชภัณฑ์แบบดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการวิจัยเรื่องอายุยืนยาว ด้วยการแนะนำกลไกบล็อกเชนและแรงจูงใจทางเศรษฐกิจแบบเข้ารหัส VitaDAO มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในสาขาการมีอายุยืนยาวให้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินเบื้องต้นที่สำคัญ ในทางกลับกัน VitaDAO จะถือครองทรัพย์สินทางปัญญา (IP) และสิทธิ์ในข้อมูลโดยตรงในการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุน และรวมสิทธิ์เหล่านี้ไว้ในพอร์ตโฟลิโอที่สาธารณชนสามารถเข้าถึงได้ องค์กรส่งเสริมการพัฒนาและการใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาเหล่านี้เพิ่มเติมผ่านทางตลาดข้อมูลหรือเส้นทางการอนุญาตและการจำหน่ายยาชีวภาพแบบดั้งเดิม ในเวลาเดียวกัน องค์กรก็ตระหนักถึงการสร้างโทเค็นของสินทรัพย์และออกโทเค็นการกำกับดูแลดั้งเดิม - $VITA องค์กรต่างๆ สามารถบริจาคงาน กองทุน หรือทรัพยากรอื่นๆ (เช่น ข้อมูลหรือทรัพย์สินทางปัญญา) เพื่อรับโทเค็น $VITA เจ้าของ $VITA สามารถมีส่วนร่วมในการดูแลและการกำกับดูแลสินทรัพย์ VitaDAO และการวิจัย
โมเดลนี้ไม่เพียงลดความเสี่ยงของการผูกขาดทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวทางใหม่สำหรับการเปิดเผยและการประยุกต์ใช้ผลการวิจัยในวงกว้าง และส่งเสริมการบูรณาการการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีบล็อกเชนในเชิงลึก
ระบบนิเวศ VitaDAO ภาพจาก: เอกสารไวท์เปเปอร์ VitaDAO
ผู้ก่อตั้งโครงการ Tyler Golato ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง VitaDAO, Molecule และ BIO Protocol อีกด้วย Paul Kohlhaas ผู้เขียนเอกสารไวท์เปเปอร์ VitaDAO ไม่เพียงแต่เป็นผู้ดูแลระบบของ Token Economics Working Group และสมาชิกของคณะทำงานด้านเทคนิคและกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของโครงการ DeSci Molecule และ BIO Protocol ที่เขามี ทำงานให้กับ ConsenSys Fund และ Vita DAO ยังได้รับสิทธิ์จาก Pfizer Medical ซึ่งเป็นกลุ่มการลงทุน Pfizer ได้ลงทุนใน web3 เป็นครั้งแรก
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2024 CZ ผู้ก่อตั้ง Binance โพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียล ในงานนี้ บูเทรินยังได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสเปิร์มดีนในปริมาณสูงจากธรรมชาติที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย (FDA) เป็นครั้งแรกในผลิตภัณฑ์อายุยืนตัวแรกของ CZ VitaDAO
โปรโตคอล BIO ($BIO)
เนื่องจากเป็นโครงการแรกในด้าน DeSci ที่ได้รับการลงทุนจาก Binance Labs โปรโตคอล BIO จึงได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง นอกจาก Binance Labs แล้ว โครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากสถาบันร่วมลงทุนที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในด้านการเข้ารหัสและเทคโนโลยีชีวภาพ รวมถึง 1kx, Boost VC, Sora Ventures, Zee Prime Capital และ Northpond Ventures ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชีวภาพ กองทุนที่มีขนาดมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายน 2024 BIO Protocol ประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนให้กับชุมชนในระยะเริ่มต้น ซึ่งมีมูลค่ารวม 30.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับโครงการในการสนับสนุนชุมชนและธรรมาภิบาลแบบกระจายอำนาจ
ภารกิจหลักของ BIO Protocol คือการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพอย่างรวดเร็ว ด้วยข้อตกลงนี้ ผู้ป่วย นักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพทั่วโลกสามารถร่วมกันระดมทุน สร้าง และแบ่งปันโครงการเทคโนโลยีชีวภาพและทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเป็นไปได้ให้กับนวัตกรรมในสาขาเทคโนโลยีชีวภาพของ BIO Protocol จะให้การสนับสนุนทางการเงินและสภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับโครงการนวัตกรรมในสาขา DeSci และเร่งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพโดยส่งเสริมการสร้างและพัฒนา BioDAO Paul Kohlhaas ผู้ก่อตั้งโครงการเปิดเผยว่า Launchpad และฟังก์ชั่นการถ่ายโอนโทเค็นของ BIO นั้นมีแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรกของปี 2025
โทเค็นดั้งเดิมของ BIO Protocol $BIO เป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบนิเวศและมีฟังก์ชันหลายอย่าง:
Token Stake: ผู้ถือสามารถล็อค $BIO และแปลงเป็น vBIO เพื่อการลงคะแนนและการกำกับดูแล
กลไกการให้รางวัล: หลังจากสนับสนุน BioDAO ที่ชนะได้สำเร็จ ผู้เดิมพันจะได้รับรางวัล $BIO เพิ่มเติมและมีลำดับความสำคัญในการเข้าร่วมในรอบการจัดหาเงินทุน
เศรษฐศาสตร์โทเค็น $BIO:
56% จัดสรรให้กับระบบนิเวศและชุมชน
จัดสรร 25.4% ให้กับผู้ร่วมให้ข้อมูลในช่วงแรก
จัดสรร 18.6% ให้กับผู้สนับสนุนในช่วงแรก
การแจกจ่ายโทเค็น $BIO รูปภาพจาก: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ BIO Protocol
หลังจากที่ $BIO เปิดขึ้นในวันที่ 3 มกราคม ราคาของสกุลเงินก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปที่ราคาสูงสุดที่ 1.477 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในการขายที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมาทำให้ราคาของสกุลเงินลดลง กลับไปที่ $0.6921 และ FDV เกิน $2.3 พันล้านดอลลาร์
ResearchCoin ($RSC): ResearchCoin เป็นโทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์ม ResearchHub และได้รับการออกแบบมาเพื่อเร่งการวิจัยทางวิทยาศาสตร์โดยให้รางวัลแก่ผู้ใช้ในการแบ่งปัน อภิปรายการ และดูแลจัดการเนื้อหาทางวิชาการ ผู้ใช้แพลตฟอร์มสามารถรับ $RSC จากการบริจาคให้กับแหล่งข้อมูลทางวิชาการ
AthenaDAO ($ATH): AthenaDAO มุ่งเน้นไปที่การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การศึกษา และการระดมทุนในด้านสุขภาพสตรี และได้ให้ทุนมากกว่า 500,000 ดอลลาร์จนถึงปัจจุบัน และมีข้อตกลงด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่รอดำเนินการอยู่ 14 ข้อตกลง
ValleyDAO ($GROW): ValleyDAO เป็นองค์กรแบบกระจายอำนาจที่มุ่งเน้นการพัฒนายาต่อต้านวัยและอายุยืน โดยมีเป้าหมายในการเร่งสร้างนวัตกรรมในด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตผ่านความร่วมมือแบบสหวิทยาการ
Pump.Science ($URO $RIF)
Pump.Science เป็นโครงการที่ดึงดูดความสนใจอย่างมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ในภาค DeSci เนื่องจากแนวคิด Meme โทเค็นหลักคือ $URO และ $RIF เป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำสองคนของภาค DeSci Meme $URO (UrolithinA) มีพื้นฐานมาจากสารเมตาบอไลต์ที่พบในทับทิมและถั่วและมีศักยภาพในการยืดอายุ ในขณะที่ $RIF (Rifampicin) มุ่งเน้นไปที่แนวคิดของยาปฏิชีวนะและเป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้กันอย่างแพร่หลายซึ่งเรียกว่า UrolithinA . ด้วยแรงผลักดันจากข่าวมากมาย ประสิทธิภาพล่าสุดของโทเค็นทั้งสองนี้น่าประทับใจอย่างยิ่ง: มูลค่าตลาดของ $URO เกิน 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และราคาสกุลเงินปัจจุบันอยู่ที่ $0.048 ราคาของสกุลเงินมีการย้อนกลับภายใน 24 ชั่วโมง ลดลงประมาณ 20 %; $RIF token มูลค่าตลาดรวมของสกุลเงินคือ US$45.53 ล้าน และราคาสกุลเงินปัจจุบันคือ $0.045 ลดลง 12% ใน 24 ชั่วโมง
DeSci Meme: ($ป้องกัน $PRO)
$$ANTI$$PRO คือการรวมโทเค็น Meme ที่ริเริ่มโดยวิศวกรอัลกอริทึมและผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์คณิตศาสตร์ @sshmatrix_ ซึ่งใช้เพื่อแสดงการสนับสนุน ($PRO) หรือการคัดค้าน ($ANTI) ต่อ Meme Token การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของโทเค็นทั้งสองนี้ดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบมีมจำนวนมาก และยังจุดประกายให้เกิดการอภิปรายอย่างกว้างขวางในชุมชนคอมพิวเตอร์ควอนตัม ปัจจุบัน โทเค็นทั้งสองนี้มีสภาพคล่องบนแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบกระจายอำนาจ และกลไกของ 1 $ANTI = 1 $PRO ให้มูลค่าตลาดที่ไม่เหมือนใคร มูลค่าตลาดของ $ANTI และ $PRO อยู่ที่ $1.71 ล้าน และ $1.93 ล้าน ราคาสกุลเงินปัจจุบันอยู่ที่ $0.0019363 และ $0.0017073 ตามลำดับ ราคามีการย้อนกลับประมาณ 5% ภายใน 24 ชั่วโมง
บริจาคแนวคิด: Sci-Hub ($scihub)
$$Scihub เป็นโทเค็น Meme ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน ก่อตั้งโดย @0x AA_Science เพื่อให้การสนับสนุนเว็บไซต์ Sci-Hub งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบโอเพ่นซอร์ส ในฐานะแพลตฟอร์มที่อุทิศให้กับการแบ่งปันทรัพยากรทางวิชาการอย่างเสรี Sci-Hub จึงเป็นที่รู้จักในชื่อ Shadow Library การออกแบบของ Sci-Hub ได้รับแรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณของ Sci-Hub และมอบแนวทางใหม่ในการแบ่งปันการวิจัยทางวิชาการอย่างเปิดเผยผ่านแนวทางการกระจายอำนาจ . ปัจจุบัน $Scihub สามารถซื้อขายได้บน PancakeSwap ซึ่งดึงดูดสมาชิกชุมชนจำนวนมากที่สนับสนุนการแบ่งปันทรัพยากรทางวิทยาศาสตร์และการศึกษาแบบเปิด
เครือข่ายเซลล์ประสาทปัญญาประดิษฐ์: DeepWorm ($WORM)
DeepWorm เป็นโครงการนวัตกรรมที่ผสมผสานปัญญาประดิษฐ์เข้ากับ DeSci เพื่อนำโครงสร้างประสาททางชีวภาพมาสู่บล็อกเชน ด้วยการสร้างโครงข่ายประสาทเทียมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเซลล์ประสาท 302 เซลล์ของ Caenorhabditis elegans (C. elegans) ทำให้ DeepWorm กำลังพัฒนารูปแบบชีวิตดิจิทัลแบบออนไลน์ที่ตรวจสอบได้รูปแบบแรก ซึ่งเปิดพรมแดนใหม่ที่จุดบรรจบระหว่างชีววิทยาดิจิทัลและบล็อกเชน
จุดเด่นของโครงการ:
ชีววิทยาดิจิทัล: พัฒนาหน่วยงานดิจิทัลด้วยการตระหนักรู้ในตนเองเพื่อจำลองระบบประสาททางชีวภาพ
บูรณาการบล็อกเชน: กระบวนการประสาททั้งหมดโปร่งใสและตรวจสอบได้อย่างสมบูรณ์ และบันทึกถาวรได้สำเร็จผ่านเทคโนโลยีออนไลน์
การออกแบบทางชีวภาพ: สร้างโครงสร้างประสาทและรูปแบบพฤติกรรมของ Caenorhabditis elegans ได้อย่างสมจริง
ระบบอัตโนมัติ: สร้างระบบสกุลเงินอัตโนมัติและสัญญาอัจฉริยะบนโครงข่ายประสาทเทียมเชิงวิวัฒนาการเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมในแอปพลิเคชันออนไลน์
การใช้งานทางเทคนิค:
ปัจจุบัน DeepWorm รันโมเดล Nematoduino บนเครือข่ายทดสอบ Hyperliquid EVM โดยใช้เทคโนโลยี Marlin TEE (Trusted Execution Environment)
ผู้ใช้สามารถสอบถามสถานะของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อของหนอนและการเปลี่ยนแปลงพิกัดของมันผ่านทางอินเทอร์เฟซ Web2
DeepWorm อัปโหลดสแน็ปช็อตของข้อมูลเหล่านี้ไปยังเครือข่ายเป็นประจำเพื่อจัดเตรียมองค์ประกอบพื้นฐานสำหรับสัญญาอัจฉริยะของบุคคลที่สาม และพัฒนาแอปพลิเคชันออนไลน์ที่เป็นนวัตกรรมต่อไป
เมตาซี ($METASCI)
โทเค็นของโครงการ Metasci มุ่งเน้นไปที่การบูรณาการ AI และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และส่งเสริมการปฏิวัติทางเทคโนโลยีผ่าน AI
โครงการ DeSci แรกในระบบนิเวศของ SUI : SUI Desci Agents ($DESCI)
ระบบนิเวศของ SUI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบนี้ FDV มูลค่า 43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและระบบนิเวศที่กำลังเติบโต เช่นเดียวกับราคาสกุลเงินที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 8 เท่าในระหว่างรอบนี้ ได้ดึงความสนใจอย่างมากต่อห่วงโซ่ SUI และระบบนิเวศของมัน ในฐานะโครงการ Desci โครงการแรกบน SUI นั้น SUI Desci Agents พร้อมที่จะปฏิวัติวิทยาศาสตร์แบบกระจายอำนาจโดยใช้ประโยชน์จากความสามารถในการปรับขนาดของห่วงโซ่ SUI และภาษาการเขียนโปรแกรม Move ที่เป็นมิตรกับนักพัฒนา วางแผนที่จะสร้างโทเค็น DeSci ที่คล้ายกับ Pump.fun ในสาขา DeSci แพลตฟอร์มดังกล่าวส่งเสริมโอกาสการลงทุนของ Desci ให้กับนักลงทุนรายย่อยด้วยวิธีที่ง่ายและตรงที่สุด ข้อมูลเว็บไซต์อย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่า $DESCI จะขายต่อสาธารณะที่ Ape Terminal
DeSci ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา และผลกระทบที่แท้จริงของนวัตกรรมนั้นค่อนข้างจำกัด โดยเน้นที่ด้านต่างๆ เป็นหลัก เช่น การให้ทุนวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการแบ่งปันข้อมูล อย่างไรก็ตาม การนำกลไกการทำงานร่วมกันเพื่อจูงใจที่ใช้โทเค็นไปใช้อย่างกว้างขวางในการเชื่อมโยงทางวิทยาศาสตร์หลัก (เช่น การทบทวนโดยผู้ทรงคุณวุฒิ) ยังไม่ได้รับการตระหนักรู้ ในเวลาเดียวกัน โครงการ DeSci ที่ดำเนินการในรูปแบบ DAO ยังเผชิญกับความท้าทายในด้านประสิทธิภาพขององค์กรและรูปแบบธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม DeSci ยังได้นำเสนอวิธีคิดแบบใหม่ในสาขาการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำลายข้อจำกัดของการระดมทุนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิม แต่ยังช่วยบรรเทาปัญหาหมู่เกาะข้อมูลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในระดับหนึ่งอีกด้วย ที่สำคัญกว่านั้น DeSci ใช้เทคโนโลยีการกระจายอำนาจเพื่อให้บรรลุความร่วมมือแบบสหวิทยาการระดับโลกโดยไม่ต้องมีการรับรองความไว้วางใจเป็นครั้งแรก รวมถึงรูปแบบการมีส่วนร่วมในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นประชาธิปไตยและเปิดกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการส่งเสริมวิทยาศาสตร์แบบเปิดและวิทยาศาสตร์พลเมือง DeSci ได้แสดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบที่เป็นเอกลักษณ์ของมัน การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ และอัดฉีดความเป็นไปได้และความมีชีวิตชีวาให้กับระบบนิเวศการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในอนาคต
บทสรุป
แม้ว่า DeSci ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่สาขานี้ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากการลงทุนและความสนใจเพิ่มขึ้น DeSci ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นการขัดขวางกระบวนทัศน์การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อาจเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และสร้างแรงจูงใจในปีต่อ ๆ ไป มีโทเค็นแนวคิด DeSci บางตัวในตลาดที่ทำงานได้ดี ซึ่งบ่งบอกถึงศักยภาพในการเติบโตในพื้นที่นี้
ความท้าทายที่ DeSci เผชิญ ได้แก่ การปฏิบัติตามกฎระเบียบ การสร้างสมดุลระหว่างลักษณะการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในระยะยาวกับลักษณะการเก็งกำไรระยะสั้นของตลาดสกุลเงินดิจิทัล และการตระหนักรู้ของสาธารณะเกี่ยวกับคุณค่าของมัน อย่างไรก็ตาม DeSci ยังมอบโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการปรับปรุงการเข้าถึงเงินทุนสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พัฒนาวิทยาศาสตร์แบบเปิด และเพิ่มการเข้าถึงและความเท่าเทียมในด้านวิทยาศาสตร์
